ระหว่างที่คะแนนนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ กำลังสั่นคลอนอย่างหนัก เขาได้ใช้จังหวะนี้ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่
ล่าสุด ผู้นำญี่ปุ่นต้องเจอศึกหนัก เมื่อ ยูริโกะ โคอิเกะ ผู้ว่ากรุงโตเกียวหญิง และอดีตรัฐมนตรีกลาโหมหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองญี่ปุ่น ประกาศท้าชนในศึกเลือกตั้ง ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้
พอเอ่ยถึง ยูริโกะ โคอิเกะ เธอคือนักสร้างประวัติศาสตร์ให้กับผู้หญิงในหลากหลายมิติ เธอเกิดในครอบครัวเศรษฐีน้ำมันในโกเบ และครอบครัวผลักดันให้โคอิเกะไปเรียนต่อที่อียิปต์จนเชี่ยวชาญภาษาอาหรับเพื่อสานต่อธุรกิจครอบครัว
เธอมาเอาดีในการเป็นนักแปลและล่ามภาษาอาหรับ ก่อนจะก้าวเข้าสู่วงการสื่อ ในฐานะผู้ประกาศข่าวและผู้สื่อข่าวเมื่อปี 1979 และได้รับรางวัลผู้สื่อข่าวหญิงยอดเยี่ยม เมื่อปี 1990
โดย The New York Times รายงานว่า ผลงานเด่นของเธอในยุคนั้น คือการสัมภาษณ์อดีตผู้นำลิเบีย มูฮัมมาร์ เอล กัดดาฟี ซึ่งกัดดาฟีได้หยอดไว้ว่า โคอิเกะควรจะหันมาเล่นการเมืองท่าจะรุ่ง!
แล้วก็เป็นอย่างที่คาด โคอิเกะ สานต่อความมุ่งมั่นของผู้เป็นพ่อในการก้าวเข้าสู่วงการการเมือง เธอได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในปี 1993
ผลงานที่โดดเด่นที่สุด เห็นจะเป็นช่วงที่เธอเข้าร่วมพรรค LDP ในยุคของนายกรัฐมนตรี จุนอิชิโร โคอิซูมิ ช่วงปี 2005 เธอได้รับสมญานามว่า “มือสังหารของโคอิซูมิ” จากการควบตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อม และรัฐมนตรีดูแลกิจการโอกินาวาและดินแดนทางเหนือ ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีกลาโหมหญิงคนแรก และเป็นรัฐมนตรีกลาโหมที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุดเพียง 54 วัน ในยุคนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ
จากนั้นในปี 2008 โคอิเกะสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง ด้วยการประกาศแผนชิงชัยเป็นประธานพรรค LDP แต่ได้รับเสียงสนับสนุนเป็นอันดับที่ 3 ก่อนจะลงชิงชัยตำแหน่งผู้ว่ากรุงโตเกียวถึง 2 ครั้ง และชนะการเลือกตั้งเมื่อปีก่อน จนได้เป็นผู้ว่ากรุงโตเกียวหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์
ในระยะหลังๆ พรรค LDP ไม่ค่อยสนับสนุนเธอเท่าไหร่นัก ทำให้โคอิเกะประกาศลาออกจากพรรค LDP ของนายอาเบะ เพื่อมาเป็นหัวหน้าพรรค Tomin First หรือ คนโตเกียวต้องมาก่อน ซึ่งได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้น
ล่าสุด เธอจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาใหม่ ภายใต้ชื่อ Kibo no To หรือ "พรรคแห่งความหวัง" ที่สะท้อนการคิดใหม่ทำใหม่และกล้าต่อกรกับพรรคการเมืองเดิมๆ ที่ครองอำนาจมายาวนาน
แนวคิดทางการเมืองของโคอิเกะ เป็นนักการเมืองสายเหยี่ยว และสนับสนุนการปฏิรูประบบการบริหารราชการและงบประมาณแผ่นดิน เคยผลักดัน carbon tax ขึ้นมาในสมัยเป็นรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมที่กลายมาเป็นพิธีสารเกียวโต ขณะเดียวกันเธอเป็นนักการเมืองชาตินิยมขวาจัด ที่ไปสักการะศาลเจ้ายาสุกุนิเป็นประจำ และเป็นมันสมองในการสังคายนาหนังสือประวัติศาสตร์ที่เป็นข้อพิพาทในตอนนี้
ชัยชนะในสนามเล็กบวกกับผลงานที่สั่งสมมานาน ทำให้ โคอิเกะ ถูกจับตามองว่าจะเป็นคู่ปรับที่น่าสะพรึงกลัวของนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ จนบทวิเคราะห์ของ Japan Times ระบุว่า นี่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่นายชินโสะ อาเบะ ที่คะแนนนิยมลดฮวบต่อเนื่อง ชิงประกาศยุบสภา เพื่อจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 22 ตุลาคมนี้ หวังให้พรรคอื่นตั้งตัวไม่ทัน
โดยความเห็นของชาวญี่ปุ่น จากผลสำรวจของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โยมิอุริ รายงานว่า ชาวญี่ปุ่น 32% จะลงคะแนนให้กับพรรค LDP และ 13% จะลงคะแนนให้กับพรรค Kibo no To
ซึ่งต้องติดตามกันแบบตาไม่กระพริบว่า ระหว่าง “ชินโสะ อาเบะ” กับ “ยูริโกะ โคอิเกะ” ใครจะได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้!