เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเลบานอนเปิดเผยในวันอังคารว่า การเดินหน้าโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเป็นเวลา 2 วันติดต่อกันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 550 คน
กองทัพอิสราเอลยังคงทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่ทางใต้ของเลบานอนหลายครั้งในวันอังคาร โดยพุ่งเป้าไปยังจุดที่อ้างว่าเป็น เป้าหมายกลุ่มเฮซบอลลาห์หลายสิบจุดที่อิสราเอลระบุว่า ทำการยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่ภาคเหนือของตนหลายครั้งด้วย
ฝ่ายเฮซบอลลาห์กล่าวว่า ได้ยิงจรวดเข้าใส่ฐานทัพของอิสราเอลหลายจุดในวันอังคารเช่นกัน
แมทธิว ซอลท์มาร์ช โฆษกของหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติบอกกับผู้สื่อข่าวในวันอังคารว่า มีประชาชนหลายหมื่นคนในเลบานอนถูกบีบให้ต้องกลายมาเป็นผู้พลัดถิ่น และตัวเลขคนกลุ่มนี้น่าจะพุ่งขึ้นต่อไปอีก
ซอลท์มาร์ช ยังเรียกสถานการณ์ในเลบานอนว่า “น่ากลัวอย่างสุดขีด” ด้วย
โวลเกอร์ เทิร์ค ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่มีอิทธิพลพอจะช่วยคลี่คลายสถานการณ์ในภูมิภาคนี้ให้ “ทำทุกอย่างที่สามารถทำได้ เพื่อรับประกันว่าการมีการเคารพกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง” ตามการเปิดเผยของ ราวินา ชามดาซานิ โฆษกของเทิร์ค
ชามดาซานิ ยังบอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า “วิธีและหนทางการทำสงครามที่มีการใช้กันอยู่ทำให้เกิดความกังวลอย่างหนักมาก ว่า ทั้งหมดนี้เป็นไปตามกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศหรือไม่”
ความรุนแรงที่ยกระดับขึ้นนี้ได้ทำให้สายการบินแอร์ฟรานซ์ กาตาร์แอร์เวย์ เอทิฮัด และสายการบินอื่น ๆ ยกเลิกเที่ยวบินเข้า-ออกสนามบินเบรุต
การโจมตีของอิสราเอลครั้งนี้เริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ โดยกองทัพเทลอาวีฟระบุว่า ได้ถล่มเป้าหมายไปแล้วกว่า 1,500 จุดในพื้นที่ภาคใต้และภาคตะวันออกของเลบานอนไปแล้ว
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเลบานอนกล่าวว่า การโจมตีของอิสราเอลนับตั้งแต่วันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 558 คนและบาดเจ็บกว่า 1,835 คน โดยในกลุ่มผู้เสียชีวิตนั้นมีเด็ก 50 คนและผู้หญิงอย่างน้อย 94 คน
รายงานข่าวระบุว่า กองทัพอิสราเอลได้เตือนประชาชนในเขตเบกาแวลลีย์ ทางตะวันออกของเลบานอน ให้อยู่ห่างจากคลังเก็บอาวุธของเฮซบอลลาห์แล้ว
ในสารที่บันทึกเพื่อส่งต่อให้ชาวเลบานอน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เรียกร้องให้ชาวบ้านรับฟังคำเตือนของอิสราเอลให้อพยพออกจากพื้นที่ โดยกล่าวว่า ทุกคนควร “รับฟังคำเตือนนี้อย่างจริงจัง” และว่า “ได้โปรดหลีกหนีออกไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเดี๋ยวนี้ ... ทันทีที่ปฏิบัติการของเราเสร็จสิ้น ท่านจะสามารถกลับมายังบ้านเรือนของท่านได้อย่างปลอดภัย”
มีรายงานว่า ผู้คนนับพันได้หลบหนีออกจากพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอนแล้ว ส่งผลให้ถนนหลวงที่มุ่งหน้าไปทางเหนือของกรุงเบรุตแออัดคับคั่งอย่างมาก
ขณะเดียวกัน อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวผ่านโฆษกว่า ตน “รู้สึกตกใจไปกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ยกระดับขึ้น” ตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอน โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์ที่พลเรือนจำนวนมากเสียชีวิตและมีผู้พลัดถิ่นหลายพันคน
และเมื่อค่ำวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มจี7 ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ “หยุดวัฏจักรของการทำลายล้างดังที่เกิดขึ้นได้แล้ว” และว่า “การกระทำและการตอบโต้นั้นสร้างความเสี่ยงที่จะขยายวงเวียนของความรุนแรงอันแสนอันตรายนี้ออกไปและลากภูมิภาคตะวันออกกลางทั้งหมดเข้าสู่ภาวะความขัดแย้งเป็นวงกว้างโดยไม่อาจคาดเดาผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นได้เลย”
อิสราเอลและเฮซบอลลาห์ระดมถล่มใส่กันนับตั้งแต่เกิดสงครามในกาซ่าเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม หลังกลุ่มฮามาสโจมตีเข้าใส่ภาคใต้ของอิสราเอลจนทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 1,200 คน ซึ่งทำให้กรุงเทลอาวีพส่งกองทัพเปิดฉากโจมตีโต้กลับเข้าไปในฉนวนกาซ่า และสงครามที่ดำเนินมาเกือบปีนี้ได้ทำให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตกว่า 41,100 คนแล้วตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซ่า
เฮซบอลลาห์อ้างว่า การโจมตีของฝ่ายตนนั้นเป็นการแสดงจุดยืนสนับสนุนชาวปาเลสไตน์และกลุ่มฮามาสซึ่งมีอิหร่านหนุนหลังเช่นกัน
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์
กระดานความเห็น