เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเลบานอนเปิดเผยในวันพฤหัสบดีว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คนและบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 7 คน ที่อาคารอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเบรุต
ขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลยืนยันการเดินหน้าปฏิบัติการของตนที่พุ่งเป้าไปยังเมืองหลวงของเลบานอนต่อไปเพื่อกำจัดกลุ่มติดอาวุธเฮซบอลลาห์ พร้อม ๆ กับร้องขอให้ประชาชนชาวเลบานอนในพื้นที่กว่า 60 เมืองทางใต้ของประเทศให้อพยพออกจากบ้านเรือนทันทีด้วย
อิสราเอลรายงานว่า ในวันพฤหัสบดี กองทัพได้ทำการโจมตีทางอากาศเข้าใส่เป้าหมายกลุ่มเฮซบอลลาห์ราว 200 จุดทั่วเลบานอน โดยรวมถึงอาคารแห่งหนึ่งในเมือง บินต์ จเบล ทางใต้ของเลบานอนที่กลุ่มติดอาวุธนี้ใช้เป็นที่เก็บอาวุธ และได้สังหารนักรบของกลุ่มนี้ได้ราว 15 คน
เมื่อวันพุธ อิสราเอลประกาศว่า ทหาร 8 นายของตนถูกสังหารในการต่อสู้กับเฮซบอลลาห์ หลังเริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดิน “แบบจำกัด” เข้าไปในเลบานอนได้เพียง 1 วัน
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กล่าวในคลิปวิดีโอส่งสารแสดงความเสียใจ ว่า “เราอยู่ท่ามกลางสงครามที่หนักหน่วงเพื่อจัดการกับแกนแห่งความชั่วร้าย (axis of evil) ของอิหร่านที่พยายามทำลายเรา” และว่า “นั่นจะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะเราจะยืนหยัดร่วมกัน และด้วยความช่วยเหลือของพระผู้เป็นเจ้า เราจะชนะไปด้วยกัน เราจะนำตัวประกันทางใต้กลับคืนมา เราจะนำประชาชนทางเหนือของเรากลับมา เราจะทำให้มั่นใจในความเป็นความเป็นนิรันดร์ของอิสราเอล”
ในประเด็นความรุนแรงที่ดำเนินต่อเนื่องในเลบานอนนี้ จีนีน เฮนนิส-พลาสชาร์ต ผู้ประสานงานพิเศษในเลบานอนของสหประชาชาติ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) ว่า “เป็นอีกคืนที่นอนไม่ได้กันในเบรุต” และ “คอยนับเสียงระเบิดที่เขย่าเมือง ไม่มีเสียงไซเรนเตือน ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป มีแต่ความไม่แน่นอนรออยู่ข้างหน้า ความวิตกกังวลและความกลัวมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง”
การประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น
ที่นครนิวยอร์ก คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเปิดประชุมนัดฉุกเฉินเมื่อวันพุธเพื่อหารือประเด็นสถานการณ์ที่ย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่องในตะวันออกกลาง
เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) อันโตนิโอ กูเทอเรซ กล่าวต่อที่ประชุมว่า “ไฟที่ลุกโหมกระหน่ำในตะวันออกกลางนั้นกำลังกลายมาเป็นเพลิงนรกอย่างรวดเร็วแล้ว” พร้อมย้ำคำเรียกร้องให้มีการหยุดยิงในกาซ่าในทันที รวมทั้งมีการปล่อยตัวประกันทั้งหมด และมีการหยุดยิงในเลบานอนด้วย
ยูเอ็นได้ส่งเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพเกือบ 10,000 คนไปยังพื้นที่ภาคใต้ของเลบานอนเพื่อสังเกตการณ์สถานการณ์บริเวณชายแดนที่ติดกับอิสราเอลแล้ว และกูเทอเรซกล่าวว่า ทั้งหมดจะประจำอยู่ในพื้นที่ต่อไป แม้อิสราเอลจะขอย้ายเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไปอยู่ที่จุดอื่นก็ตาม
คณะผู้แทนของเลบานอนประจำยูเอ็น กล่าวว่า คำกล่าวอ้างของอิสราเอลว่า การโจมตีของกองทัพตนเข้าไปในเลบานอนเป็นไปอย่างจำกัด เป็นความเท็จ
ฮาดิ ฮาเชม แจ้งต่อที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นว่า “ความเสียหายต่อพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนนั้นมโหฬารมาก”
สมาชิกคณะมนตรีได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับกรณีที่อิหร่านยิงขีปนาวุธถล่มอิสราเอล และการที่อิสราเอลส่งทหารเข้าไปในภาคใต้ของเลบานอนเมื่อวันอังคาร พร้อมเตือนว่า จะไม่มีผู้ใดยอมให้สถานการณ์ยกระดับไปมากกว่าที่เป็นอยู่
นิโคลาส เดอ ริเวียร์ ทูตฝรั่งเศสกล่าวว่า “สถานการณ์ในเลบานอนนั้นร้ายแรงจริง” และว่า “ปฏิบัติการทางทหารรุนแรงขึ้น กองทัพอิสราเอลดำเนินการบุกโจมตีทางพื้นดิน โดยละเมิดอธิปไตยของเลบานอน และเฮซบอลลาห์ก็เดินหน้าโจมตีใส่อิสราเอล” พร้อมยืนยันว่า ฝรั่งเศสคัดค้านปฏิบัติการภาคพื้นดินของกองทัพอิสราเอลในเลบานอน
แต่คณะผู้แทนอิสราเอลประจำยูเอ็นปฏิเสธเสียงเรียกร้องของคณะมนตรีฯ ให้ลดระดับความตึงเครียดของสถานการณ์ โดยอ้างว่า การทำเช่นนั้นมีแต่จะทำให้อิหร่านฮึกเหิมขึ้น
“อิหร่านต้องรับผลกรรมอย่างหนักต่อการโจมตีนี้” แดนนี ดานอน ผู้แทนอิสราเอลกล่าว “น้อยกว่านี้คือการสมรู้ร่วมคิด”
ส่วน ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ ทูตสหรัฐฯ กล่าวว่า การโจมตีโดยอิหร่านนั้น “ไม่ได้เป็นการป้องกันตัวเองแต่อย่างใด” และเรียกร้องให้สมาชิกคณะมนตรีฯ ดำเนินมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม หรือ Islamic Revolutionary Guards Corps (IRGC) อันทรงอำนาจของเตหะราน สำหรับการสนับสนุนการก่อการร้าย”
โธมัส-กรีนฟิลด์กล่าวด้วยว่า “ดิฉันขอพูดให้ชัดเจนว่า รัฐบาลอิหร่านจะต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตน” และว่า “และเราขอเตือนอิหร่าน รวมทั้งบรรดาตัวแทนทั้งหลาย ว่า อย่าคิดทำการใด ๆ ต่อสหรัฐฯ หรือต่ออิสราเอลอีกต่อไปด้วย”
- ข้อมูลบางส่วนมาจากรอยเตอร์
กระดานความเห็น