นายกรัฐมนตรีอิสราเอลเบนจามิน เนทันยาฮู ออกคำสั่งในวันศุกร์ให้กองทัพวางแผนคู่ขนาน ที่นำไปสู่การอพยพพลเรือนปาเลสไตน์ออกจากเมืองราฟาห์ และเข้าปราบกลุ่มฮามาสด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้เมืองราฟาห์ที่อยู่ทางใต้ของกาซ่า เป็นที่พักพิงแหล่งสุดท้ายของชาวปาเลสไตน์หลายแสนที่หลบภัยมาอาศัยอยู่
สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลประกาศคำสั่งดังกล่าว ขณะที่เกิดเเรงกดดันต่ออิสราเอลจากการที่ทางการเทลอาวีฟขู่ว่าจะปฏิบัติการภาคพื้นดินในราฟาห์
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ กล่าวว่าปฏิบัติการของอิสราเอลที่เกิดขึ้นหลังจากที่ถูกฮามาสบุกวันที่ 7 ตุลาคม อยู่ในระดับที่ "เกินไป"
รัฐบาลกรุงวอชิงตันกล่าวด้วยว่าจะไม่สนับสนุนปฏิบัติการทางทหารในราฟาห์ หากว่าการกระทำดังกล่างไม่คิดถึงสวัสดิภาพของพลเรือน
กลุ่มที่ทำงานด้านมนุษยธรรมกล่าวว่าจะมีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจำนวนมาก ถ้ากองทัพอิสราเอลบุกราฟาห์ และเตือนถึงวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในเมืองดังกล่าว ซึ่งอยู่ติดชายฝั่งทะเลและติดกับอียิปต์
รัฐบาลของเนทันยาฮูกล่าวว่ามีกองพัน 3 กองพันของฮามาสอยู่ในราฟาห์ โดยระบุว่าอิสราเอลจะไม่สามารถทำตามเป้าหมายในการกำจัดฮามาสสำเร็จ ถ้าพื้นที่ดังกล่าวยังมีกลุ่มติดอาวุธนี่อยู่
ขณะเดียวกันฝ่ายอิสราเอล ระบุว่าพลเรือนควรได้รับการอพยพออกจากพื้นที่สงคราม
ท่าทีของเนทันยาฮูที่ให้กองทัพอิสราเอลวางแผนคู่ขนาน เกิดขึ้น 2 วันหลังจากที่เขาปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิงของฮามาสที่มีเงื่อนไขการปล่อยตัวประกันที่กลุ่มติดอาวุธนี้จับเอาไว้
ทั้งนี้เมืองราฟา์เป็นจุดหมายสำคัญในแผนทางทหารของอิสราเอลในกาซ่า เมื่อกองทัพบุกลงมาทางใต้
ในเวลานี้กว่าครึ่งหนึ่งของประชาชนในกาซ่า ที่มีท้งหมด 2.3 ล้านคน ใช้ราฟาห์เป็นเเหล่งพักพิง ซึ่งจำนวนมากใช้เต้นท์เป็นที่อยู่อาศัยและปักหลักอยู่ติดชายเเดนอียิปต์
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น