Twitter เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ได้ปิดบัญชีที่สงสัยว่าเผยแพร่อุดมการณ์สุดโต่งไปมากกว่า 300,000 บัญชี ซึ่งเข้าใจกันว่าส่วนหนึ่งมาจากความกดดันจากชาติตะวันตกที่พยายามสกัดกั้นการสื่อสารติดต่อของกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรัฐอิสลาม หรือ IS
แต่นักวิเคราะห์กล่าวว่า เวลานี้กลุ่มก่อการร้ายหันมาใช้ app ที่เรียกว่า Telegram อย่างแข็งขันมากขึ้น
เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสและเยอรมนีกล่าวว่า กลุ่ม IS ใช้ app "Telegram" ในการวางแผนโจมตีเมื่อเร็วๆ นี้ และเรียกร้องให้มีการปราบปรามการใช้ app นี้ สำหรับการก่อการร้ายทั่วทวีปยุโรป
Telegram ซึ่งมีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านรายในขณะนี้ กล่าวว่าไม่อนุญาตให้มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความคิดสุดโต่งในช่องคุยสาธารณะ แต่ไม่ติดตามตรวจสอบในช่องส่วนบุคคล ซึ่งเป็นช่องลับเข้ารหัส
Mohammed Reza Jamshid นักวิเคราะห์ความมั่นคงทางคอมพิวเตอร์ในอิหร่าน บอกว่า Telegram เป็นทางเลือกดีที่สุดสำหรับ IS เพราะจะติดตามร่องรอยผู้ใช้หรือกลุ่มผู้ใช้ ได้ยากมาก
เมื่อไม่นานมานี้ บรรษัท Rand ศึกษาการใช้ Twitter และพบว่าในจำนวน 23 ล้านทวีตเป็นภาษาอาหรับ โดยผู้สนับสนุนกลุ่ม IS ทวีตมากกว่าฝ่ายตรงข้ามโดยเฉลี่ยแล้วราวๆ 50%
IS ใช้ Twitter ในการส่งข้อความสุดโต่งและหาสมัครพรรคพวกอย่างเปิดเผย
กลุ่ม IS เริ่มใช้ Telegram ในการโฆษณาชวนเชื่อในเดือนกันยายนปีก่อน ไม่นานหลังจากที่ Telegram ประกาศบริการช่องส่วนบุคคลที่เป็นช่องลับ
Michael S. Smith นักวิเคราะห์การต่อต้านการก่อการร้ายในสหรัฐ กล่าวว่า การสื่อสารติดต่อที่เข้ารหัสในหมู่ผู้ก่อการร้าย เป็นความท้าทายต่อเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ติดตามกิจกรรมของกลุ่มได้ยากมากขึ้น
นักวิเคราะห์ผู้กล่าวต่อไปว่า ข้อดีอีกข้อหนึ่งของ Telegram คือกลุ่ม IS สามารถเขียน Blog ได้ยาวมากกว่าการใช้ Twitter และยังส่งข้อความออกไปได้โดยไม่ต้องอาศัยเว็บไซต์ใดๆ เป็น Host ให้
แต่ข้อด้อยของ Telegram ก็มี กล่าวคือทำให้ IS หาพวกได้ยากขึ้น เพราะการติดต่อทาง Telegram ช่องลับ ไม่สะดวกเหมือนทาง Facebook และ Twitter
J. M. Berger นักวิจัยในโครงการลัทธิสุดโต่งที่มหาวิทยาลัย George Washington ในกรุงวอชิงตัน บอกว่าด้วยเหตุนี้ กลุ่ม IS จึงกำลังเร่งเร้าให้บรรดาผู้สนับสนุนกลับไปสร้างบัญชีขึ้นใหม่ใน Twitter