ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านขบวนก่อการร้ายเพิ่มการสอดส่องกลุ่มหัวรุนแรงที่ใช้สื่อออนไลน์ชักจูงเด็กรุ่นใหม่ให้เข้าร่วมอุดมการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มรัฐอิสลาม IS หลังจากที่เกิดกรณีเด็กหนุ่มสาวจากโลกตะวันตกเดินทางออกจากประเทศของคน และเข้าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการที่มีสุดโต่งดังกล่าว
เมื่อเดือนที่แล้ว ตำรวจอังกฤษต้องสืบหาตัวนักเรียนหญิงสามคน อายุระหว่าง 15 ถึง 16 ปีที่ตำรวจพบภาพพวกเธอเดินทางออกจากสหราชอาณาจักร และเห็นคลิปที่เด็กเหล่านี้ปรากฏตัวในนครอิสตันบูลของตุรกี ซึ่งเจ้าหน้าที่เชื่อว่าตอนนี้ทั้งสามคนอยู่ในซีเรียเพื่อร่วมกับกลุ่ม IS เรียบร้อยแล้ว
Peter Fahy จากหน่วยปราบปรามการก่อการร้ายของอังกฤษ กล่าวว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มนิยมความรุนแรงแบบสุดโต่งเข้าถึงเยาวชน ผ่านการสื่อสารผ่านอินเตอร์เน็ท คือไปได้ถึงห้องนอนของเด็กๆ ได้โดยตรง
เจ้าหน้าที่บอกด้วยว่า สตรีชื่อ Aqsa Mahmood ชาวอังกฤษ ผู้ซึ่งเคยเดินทางไปซีเรียเพื่อร่วมกับ IS ทำหน้าที่เป็นคนจูงใจเด็กวัยรุ่นให้เป็นสมาชิกกลุ่มหัวรุนแรงนี้ และหากดูข้อมูลว่ามีคนจากยุโรปจำนวนมากที่ฝักใฝ่ IS จนถึงขั้นออกจากประเทศตนไปร่วมทำสงครามในพื้นที่ หรือยอมพลีตนให้กับนักรบ IS อาจจะเรียกได้ว่าเป็นปรากฏการณ์ที่ท้าทายเจ้าหน้าที่อย่างมาก
นักวิเคราะห์ Shiraz Maher จากมหาวิทยาลัย Kings College ที่ลอนดอน กล่าวว่า ช่องทางการติดต่อสื่อสารในปัจจุบันทำให้คนที่อยากทราบว่าชีวิตของนักรบ IS หรือคนที่ร่วมกับกลุ่มหัวรุนแรงนี้ว่าเป็นอย่างไร สามารถได้ฟังเรื่องราวต่างๆ ได้จากสมาชิก IS ที่อยู่ในพื้นที่จริง
เขาเสริมว่าการพูดคุยและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับนักรบ IS ทำให้คนที่อาจจะเคยกลัวเลิกกลัวที่จะเข้าร่วมกับขบวนการดังกล่าวได้ ผู้เชี่ยวชาญจาก Kings College ผู้นี้บอกด้วยว่า การโน้มน้าวใจคนรุ่นใหม่โดยกลุ่ม IS อาศัยเครือข่ายของคนที่ชื่นชมนักรบสงครามศาสนาเหมือนกับว่าคนเหล่านั้นเป็นดาราหรือศิลปินคนดัง
เจ้าหน้าที่พบว่าผู้ปล่อยข้อมูลจูงใจคนให้เข้าร่วม IS รายสำคัญคนหนึ่งอยู่ในนคร Bangalore ประเทศอินเดีย โดยใช้ทวิตเตอร์ภายใต้ชื่อ ShamiWitness ชายคนดังกล่าวถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้เมื่อเดือนธันวาคม เขามีคนติดตามบนทวิตเตอร์มากกว่า 17,000 คน และเผยแพร่โฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มรัฐอิสลาม IS
รายงานโดย Henry Ridgwell และรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท