ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ เดินทางมากรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ และให้สัมภาษณ์กับวีโอเอไทย ที่ห้องส่งของวีโอเอในวันจันทร์ ที่ 15 กรกฎาคม เนื้อหาการสัมภาษณ์ครอบคลุมเรื่องการเดินสายต่างประเทศ ความคิดทางการเมือง การเตรียมตัวกับผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ และมุมมองเกี่ยวกับสหรัฐฯ การเดินทางครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเยือนยุโรปและสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 9-16 กรกฎาคม
: ช่วยเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่ได้จากการเดินทางมาสหรัฐฯ ครั้งนี้
"วันนี้อยู่ที่ดีซีได้พบกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากกระทรวงต่างประเทศ ของประเทศอเมริกา นอกจากนี้ ได้พบกับสื่อมวลชนหลายสำนักที่สนใจ อยากเข้าใจความเป็นไปของการเมืองไทยมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบคณะกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการต่างประเทศทั้งสภาล่างและสภาสูง"
ตอนที่อยู่นิวยอร์ก เจอมูลนิธิที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งอัน และได้พบกับ The New York Times ได้พบกับบรรณาธิการที่ดูเรื่องข่าวต่างประเทศ"
: ที่บอกว่าเป็นหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนในนิวยอร์ก คือ Clooney Foundation for Justice ใช่ไหม?
"ใช่ครับ"
"พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับประเทศ พวกเรามีแต่เจตนาดี พวกเรามีแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากให้ประเทศเดินหน้าไปข้างหน้าได้"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
: เปรียบเทียบการตอบรับจากคนที่เจอในอเมริกากับยุโรปอย่างไร?
"ทางอเมริกามีสอง level คือมี level ที่เป็นข้าราชการของรัฐ กลุ่มที่เป็นข้าราชการของรัฐ ส่วนที่เป็นข้าราชการของรัฐทั้งหมด ส่วนใหญ่จะสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่ส่วนที่เป็น political appointee ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลทรัมป์ เรายังไม่มีโอกาสได้เจอ ดังนั้นจะเข้าใจท่าทีของสหรัฐฯ จริงๆ ว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะมีท่าทีอย่างไรกับสิทธิมนุษยชนในเอเชีย หรือในทั่วโลก จะไปผลักดันอะไร เรายังไม่ได้เข้าไปพูดถึงตรงนั้น
ส่วนในยุโรป ความให้น้ำหนักกับประเทศไทยก็คงจะมีเยอะ คืออยากจะดึงไทยกลับเข้ามาสู่การเป็นประเทศที่เรียกว่าประเทศประชาธิปไตย ดังนั้นสถานการณ์ของสองกลุ่มหลักๆ ที่อยู่ตรงข้ามแอตแลนติก ก็แตกต่างกัน"
: คุณธนาธรถูกวิจารณ์ว่า การเดินสายต่างประเทศไม่ดีต่อประเทศไทย คิดอย่างไรกับเรื่องนี้?
"ก็เป็นการโจมตีของฝั่งตรงข้ามผมอยู่แล้ว ของคนที่ไม่อยากเห็นประชาธิปไตย ผมเรียนให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเข้าใจอีกครั้งว่า พวกเราไม่ได้มีเจตนาร้ายกับประเทศพวกเรามีแต่เจตนาดี พวกเรามีแต่ความมุ่งมั่นตั้งใจที่อยากให้ประเทศ เดินหน้าไปข้างหน้าได้"
"ปัจจัยชี้ขาดคือ การลุกขึ้นร่วมรณรงค์อย่างแข็งขัน ลุกขึ้นต่อสู้กับเผด็จการอย่างแข็งขันของคนไทย นี่ต่างหากคือจุดที่จะทำให้การนำประชาธิปไตยกลับมาที่ประเทศไทยเป็นจริงได้"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
: กังวลหรือไม่ต่อผลกระทบต่อพรรคอนาคตใหม่ หากศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเราทำผิดเรื่องการถือหุ้นสื่อ?
"เดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่ คดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่คดีอาญา ที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญเป็นแค่ข้อร้องเรียนถึงคุณสมบัติ ต่อให้ตัดสินว่าคุณสมบัติผิด ผมก็ไม่ได้เข้าสภา แต่ก็ยังทำงานการเมืองต่อได้ ผมก็ยังไปรับฟังปัญหาของชาวบ้าน เอาปัญหาที่ได้ยินได้ฟังส่งต่อให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคอนาคตใหม่เพื่อเอาไปแก้ไข ผมก็ยังช่วยรณรงค์ ออกแบบนโยบาย ผลิตนโยบาย เพื่อให้ผลประโยชน์ของประชาชน ได้รับการแก้ไข ได้รับการปกป้อง ก็ยังออกแบบนโยบายต่อได้"
: มีแผนอย่างไรเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ?
"พรรคอนาคตใหม่จะเปิดการรณรงค์เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนสิงหาคม ช่วงต้นเดือน ช่วงครึ่งแรกของเดือน จะทำทั้งออนไลน์และออนกราวน์ และก็ทางสภา ในทางออนกราวน์ เราจะพบกับทั้งนักศึกษามหาวิทยาลัย ทั้งผู้นำชุมชน ทั่วประเทศไทย ไปพูดคุยกับคนหลายอาชีพ"
: เมื่อสองปีก่อน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ต้อนรับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ขณะที่ประเทศไทยยังอยู่ภายใต้รัฐบาล ค.ส.ช. คุณธนาธร คิดอย่างไรกับเรื่องนี้?
"ผมคงไม่สามารถไปก้าวก่ายรัฐบาลอเมริกาได้ เพราะรัฐบาลอเมริกา คุณโดนัลด์ ทรัมป์ มาจากการเลือกตั้ง เราคงก้าวก่ายตรงนั้นไม่ได้ ดังนั้น อยากจะให้ชัดเจนที่นี่ว่าการมีพันธมิตรที่อยากเห็นสังคมที่เท่าเทียมเป็นธรรม อยากจะเห็นสังคมประชาธิปไตยเป็นสิ่งดี แต่ปัจจัยชี้ขาดคือการตื่นรู้ทางการเมืองของคนไทย ปัจจัยชี้ขาดคือ การลุกขึ้นร่วมรณรงค์อย่างแข็งขัน ลุกขึ้นต่อสู้กับเผด็จการอย่างแข็งขันของคนไทย นี่ต่างหากคือจุดที่จะทำให้การนำประชาธิปไตยกลับมาที่ประเทศไทยเป็นจริงได้"
"พรรคอนาคตใหม่จะเปิดการรณรงค์เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญในเดือนสิงหาคม ช่วงต้นเดือน ช่วงครึ่งแรกของเดือน จะทำทั้งออนไลน์และออนกราวน์ และก็ทางสภา"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่
: พล.อ. ประยุทธ์ เคยให้สัมภาษณ์กับเราว่า ตนกับโดนัลด์ ทรัมป์ มีความเหมือนกันในฐานะเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Leader คุณธนาธรเป็นผู้นำแบบเดียวกับผู้นำทั้งสองท่านนั้นหรือไม่?
(หัวเราะเสียงดัง) "คือ Change Leader ของคุณประยุทธ์นี่ชัดเจนนะ เปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลประชาธิปไตยมาเป็นรัฐบาลเผด็จการ"
: ถ้าจะบอกว่าเป็นการเปลี่ยนเพื่อปลดล็อคทางการเมือง?
"ไม่มีหรอกครับ อย่างนี้ ผมบอกว่า รัฐบาลคุณประยุทธ์ไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 ขนาดรัฐบาลหนึ่งที่มีอำนาจมาตรา 44 ยังทำไม่ได้เลย รัฐบาลประยุทธ์ 2 ที่มีพรรคร่วมรัฐบาล 19 พรรค ไม่มีทางปฏิรูปที่มีความหมายได้เลย"
(ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์กับ รัตพล อ่อนสนิท วีโอเอไทย)