“หลังจากที่เห็นข่าว และเห็นว่าเขาโดนจับกุม บ่อยมากเลยนะ เยอะมากๆค่อนข้างโชกโชนเลยนะ แล้วก็ถูกจับมา 44 ครั้ง มันเป็นจำนวนที่ไม่ปกติเลยนะ ค่อนข้างประหลาดใจที่เขายังทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ แล้วก็เห็นอยู่บ่อยๆ ที่เห็นข่าวมันเกิดขึ้นทุกวัน คือมันถี่มาก คือเห็นในอัตราที่คนโดนทำร้ายอย่างเมื่อไม่กี่วันก่อน ก็มีคนเอเชียอีกแล้วที่ถูกทำร้าย โดนแทง ถึงแม้ว่าคนร้ายที่ทำบิวจะถูกจับ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนนี้คนเดียวที่ก่อเหตุ”
นางสาวสิรินาถ หรือ บิว จิรจริยาเวช นักศึกษา และนางแบบสาวชาวไทย วัย 23 ปี ที่ถูกทำร้ายร่างกายและชิงทรัพย์ ภายในสถานีรถไฟใต้ดินบริเวณสี่แยกเฮอร์รัลด์ สแควร์ และถนนสาย 34 ใจกลางเกาะแมนฮัตตัน นครนิวยอร์ก เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์กับ วีโอเอ ไทย ว่า เธอยังมีความกังวลในความปลอดภัย แม้จะทราบว่าเจ้าหน้าที่สามารถจับตัว นายเควิน ดักลาส (Kevin Douglas) ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุทำร้ายได้แล้วและกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล
สิรินาถ ยอมรับว่า เธอยังคงหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และต้องระมัดระวังตัวในการใช้ชีวิตประจำวัน
“คือเวลาเดินทางก็รู้สึกว่า ค่อนข้างระแวง คือทำเป็นปกติ มากกว่าปกติ คือที่ผ่านมาไม่ค่อนใส่ใจเท่าไหร่ เวลาเดินทางก็มองโน่นนี่ แต่ไม่ได้ผวาถึงขนาดตอนนี้ แต่คือก็ไม่ได้ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะรู้สึกต้องใช้ชีวิตต่อ ยังต้องสัญจรเดินทาง มันช่วยไม่ได้ แต่ก็ต้องระวังตัวมากขึ้น แบบมากจริงๆ คือยืนข้างหลังก็ต้องติดกำแพงไว้เลย มองซ้ายมองขวา หน้าหลัง”
ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ใช้เวลานานกว่า 3 เดือนในการติดตามตัวผู้กระทำผิด ก่อนจะพบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นผู้ต้องหาที่ถูกจับในคดีบุกรุกและทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในอีกเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นวันเดียวกับที่ทำร้ายนางสาวสิรินาถ นอกจากนี้ยังพบประวัติอาชญากรรมของนายดักลาส ที่ก่อเหตุกระทำผิดมาอย่างโชกโชนและถูกจับมาแล้วกว่า 44 ครั้ง
นายเอริค พาร์เนส (Erice Parnes) ทนายความ ของ นางสาวสิรินาถบอกว่า ที่ผ่านมาต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการติดตามให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี เช่นเดียวกับสื่อต่างๆและสังคมที่ให้ความสนใจในคดีนี้ จนมีส่วนทำให้จับตัวคนร้ายได้
นายเอริค กล่าวว่า ขั้นตอนต่อจากนี้ จะเป็นหน้าที่ของทางอัยการรัฐนิวยอร์กจะเป็นโจทย์ยื่นเอาผิดกับผู้ต้องหาในศาล ซึ่งในเบื้องต้นได้ดำเนินคดีใน 2 ข้อหา คือ การใช้กำลังทำร้ายร่างกาย และชิงทรัพย์ เท่านั้น โดยยังไม่มีการตั้งข้อหาที่เกี่ยวกับอาชญากรรมความเกลียดชังชาวเอเชีย (hate crime) แต่เป็นเรื่องที่จะต้องพิสูจน์กันในชั้นศาล และเขาจะจับตามองอย่างใกล้ชิด และเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้เกิดขึ้น
เขาบอกว่า เป็นเรื่องไม่ง่ายที่จะพิสูจน์แรงจูงใจในการก่อเหตุว่าเกี่ยวข้องกับ อาชญากรรมความเกลียดชังหรือไม่ แต่ในบริบทที่เกิดขึ้นในหลายเมืองใหญ่ทั่วสหรัฐฯ มีเหตุที่เกิดขึ้นกับชาวเอเชีย โดยเฉพาะกับผู้หญิงชาวเอเชียเป็นประจำทุกวัน และมีสถิติเพิ่มขึ้นกว่า 400 เปอร์เซนต์ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องนำมาประกอบการพิจารณา
เช่นเดียวกับนางสาวสิรินาถ ที่บอกว่า เหตุร้ายที่เกิดกับเธอ ไม่น่าจะใช่การชิงทรัพย์ทั่วไป
“บิวไม่คิดว่าเป็นการปล้นทั่วไป เพราะเขามีโอกาสที่จะชิงของ เช่นบิวถือโทรศัพท์ในมือ แต่เขาก็ไม่ได้เอาไป กระเป๋าก็เอาไปหลังจากโดนทำร้าย ซึ่งเขาไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่เขาจะทำร้าย ถ้าเขาอยากได้แค่กระเป๋า”
ภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพ ผู้ก่อเหตุ จู่โจม ทางด้านหลัง ปิดตา ปิดปาก เพื่อไม่ให้ส่งเสียงร้อง ก่อนลงมือทุบตี และทำร้ายร่างกายหลายแห่ง แล้วชิงกระเป๋าถือของเธอหลบหนีในเวลาไม่ถึงนาที
ทนายความของนางสาวสิรินาถ กล่าวว่า ศาลนิวยอร์กได้นัดไต่สวนครั้งต่อไปในวันที่ 11 เมษายนนี้ โดยเขายืนยันว่า จะทำทุกวิถีทางที่ทำให้แน่ใจว่าคนร้ายจะถูกดำเนินคดีและรับโทษให้ยาวนานที่สุดและไม่ถูกปล่อยตัวออกมาสู่สังคมภายนอกและกระผิดซ้ำเหมือน 44 คดีที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังย้ำว่า ขอเรียกร้องให้ทุกคนที่พบเจอกับเหตุการณ์ในลักษณะนี้ให้ออกมาเรียกร้องความยุติธรรม เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานเพื่อให้มีการดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้มากขึ้น