ส่องอาชีพเสริมนักศึกษาต่างชาติในอเมริกา สร้างรายได้และประสบการณ์นอกห้องเรียน

นักศึกษาต่างชาติที่มาศึกษาต่อในอเมริกา ต่างเก็บเกี่ยวประสบการณ์พร้อมกับรายได้เสริมในการดำรงชีพในสหรัฐฯ ด้วยอาชีพเสริมที่หลากหลาย ฝั่งนักการศึกษาแสดงความกังวลว่าสิ่งนี้อาจกระทบต่อเป้าหมายในการสำเร็จการศึกษาได้

ค่าใช้จ่ายในการเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ นั้นสูงมาก Education Data Initiative ซึ่งเป็นองค์กรที่รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับระบบการศึกษาของสหรัฐฯ กล่าวว่านักศึกษาเสียใช้จ่ายโดยเฉลี่ยมากกว่าปีการศึกษาละ 50,000 ดอลลาร์

นักเรียนต่างชาติบางคนได้รับทุนการศึกษาหรือความช่วยเหลือทางการเงิน แต่หลาย ๆ คนต้องจ่ายเต็มราคาและมักต้องทำงานพิเศษนอกเวลาเรียน

หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและกรมศุลกากรของสหรัฐฯ ระบุว่า นักเรียนที่ถือวีซ่า F-1 ได้รับอนุญาตให้ทำงานทั้งในและนอกรั้วมหาวิทยาลัย ตราบใดที่พวกเขาปฏิบัติตามกฎต่าง ๆ

นอกจากนี้นักศึกษายังสามารถเก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับวัฒนธรรมการทำงานของชาวอเมริกันด้วยการเป็นอาสาสมัครให้กับองค์กรนอกพื้นที่การศึกษาของตนอีกด้วย

อาสาสมัครนอกชั้นเรียน

คูชิ แอ็กนิช (Khushi Agnish) นักศึกษาจากประเทศอินเดียที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัย ควินนิพิแอค (Quinnipiac) ที่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัฐคอนเนตทิคัต

ซึ่งได้รับทุนการศึกษาจากควินนิพิแอค แต่ยังต้องการทำงานเพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายพิเศษต่าง ๆ เธอได้ทำงานวิจัยความคิดเห็นสาธารณะทางโทรศัพท์ให้กับสถาบันสำรวจความคิดเห็นของมหาวิทยาลัยควินนิพิแอค โดยมีหัวข้อในการสำรวจต่าง ๆ มากมาย เช่น ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครน และนายกเทศมนตรีคนใหม่ของนครนิวยอร์ก เป็นต้น

แอ็กนิชกล่าวว่าเธอต้องโทรศัพท์มากถึงคืนละ 100 สาย สิ่งหนึ่งที่เธอได้เรียนรู้จากงานนี้คือวิธีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับชาวอเมริกันด้วยความมั่นใจ แต่บางครั้งก็มีคนที่ไม่เข้าใจสำเนียงของเธออยู่บ้าง หรือในบางครั้ง ผู้คนมักจะคิดว่าการที่คนอินเดียโทรมาอาจจะเป็นพวกนักต้มตุ๋น แต่นอกเหนือ จากนั้น หลาย ๆ คนก็ให้ความร่วมมือในการสำรวจความคิดเห็นเป็นอย่างดี

นอกจากนี้แอ็กนิชยังทำงานที่ศูนย์เทคโนโลยีของมหาวิทยาลัย โดยการให้ความช่วยเหลือผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เช่น ไฟล์สูญหาย และเป็นอาสาสมัครที่โรงพยาบาลในฐานะที่ปรึกษาด้านการล่วงละเมิดทางเพศ โดยให้ความช่วยเหลือผู้ที่ถูกทำร้ายในการติดต่อตำรวจและกรอกเอกสารต่าง ๆ

ครูสอนดนตรีขั้นเทพ

โทนี่ หยาน ตง เฉิน (Tony Yan Tong Chen) เพิ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ อีสท์แมน สคูล ออฟ มิวสิค (Eastman School of Music) ในเมืองรอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ซึ่งในตอนนี้เขากำลังสมัครเรียนด้านการแสดงเปียโนขั้นสูงอยู่

เฉินเดินทางมาจากนิวซีแลนด์โดยมีภูมิหลังที่แข็งแกร่งในด้านดนตรีคลาสสิก นอกจากเปียโนแล้ว เขายังเป็นนักเล่นเครื่องสายฝีมือดีอีกด้วย

เฉินกล่าวว่างานที่ดีที่สุดสำหรับนักเล่นเปียโนที่อีสท์แมนจะถูกเก็บไว้สำหรับนักศึกษาระดับปริญญาโท ส่วนตัวเขาสามารถทำงานในสำนักงาน หรือคอยกำกับที่นั่งให้กับผู้ชมในระหว่างการแสดงดนตรี แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำงานเหล่านั้น

เฉินได้งานสอนการเล่นดนตรีในวงออร์เคสตราให้แก่เด็กนักเรียนจากโรงเรียนรอเชสเตอร์ที่ ROCmusic นักเรียนหลาย ๆ คนไม่มีพื้นฐานทางดนตรีและไม่ทราบว่าจะพูดคุยเกี่ยวกับดนตรีอย่างไร ดังนั้นเขาจึงต้องเปลี่ยนคำศัพท์เพื่อให้นักเรียนเข้าใจง่ายขึ้น และช่วยให้พวกเขาพัฒนาขึ้น

เช่นเดียวกับนักศึกษาต่างชาติคนอื่น ๆ ประสบการณ์การทำงานของแอ็กนิชและเฉิน ช่วยให้พวกเขามีรายได้พิเศษ และช่วยให้มีความความเข้าใจในวัฒนธรรมอเมริกันมากขึ้นอีกด้วย

อาจารย์ห่วงทำงานหนักเกินไปกระทบการศึกษา

อย่างไรก็ตาม อาจารย์ท่านหนึ่งที่ศึกษาด้านครุศาสตร์ได้เตือนนักศึกษาต่างชาติว่า อย่าทำงานหารายได้พิเศษ จนเรียนจบปริญญาตรีไม่ทันเวลา

วอลเตอร์ เอกตัน อาจารย์จาก Florida State University ผู้จัดทำรายงานเกี่ยวกับนักศึกษาที่เรียนมหาวิทยาไปด้วยและทำงานไปด้วย พบว่านักศึกษากลุ่มนี้ราว 20% มีแนวโน้มที่จะไม่จบการศึกษาเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้ทำอาชีพเสริม

เขากล่าวด้วยว่าปริมาณชั่วโมงการทำงานที่เหมาะสมที่สุด คือ 5-10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พร้อมกับเตือนบรรดานักศึกษาต่างชาติในอเมริกาว่า การทำงานอาจช่วยให้ได้เรียนรู้วัฒนธรรมอเมริกันก็จริง แต่ต้องแน่ใจว่าสิ่งนี้จะไม่ทำให้พวกเขาประสบกับปัญหาเรียนจบช้ากว่ากำหนดไปได้

หากนักเรียนสามารถเรียนจบตามกำหนดเวลาและก้าวไปสู่เส้นทางต่อไปของชีวิตได้ การทำงานเล็กๆ น้อย ๆ ก็อาจช่วยให้นักเรียนได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนมากขึ้น

• ที่มา: วีโอเอ