ขณะที่อาหารไทยมีชื่อเสียงในระดับโลกถึงรสชาติอันหลากหลายจากวัตถุดิบและเครื่องเทศที่แตกต่างกันในแต่ละภาคของประเทศ แต่ด้วยความหลากหลายของอาหารไทยนี่เองที่อาจทำให้อาหารไทยบางอย่างอาจไม่เป็นที่ถูกปากของชาวต่างชาติมากนัก อย่างที่เห็นในปรากฏการณ์ #saveแกงส้ม ขึ้นในไทย เมื่อ “แกงส้ม” ถูกจัดอันดับโดยเว็บไซต์ TasteAtlas ให้เป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุดในโลก
วีโอเอไทยรวบรวมผลสำรวจและความเห็นอันหลากหลายจากชาวอเมริกันและชาวต่างชาติต่ออาหารไทยนานาประเภท
“มัสมั่น-ต้มยำกุ้ง-ส้มตำ-ผัดไทย” พูดที่ไหน ใครก็รู้จัก
เมื่อปี 2021 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น ทราเวล จัดอันดับให้มัสมั่นเป็นอาหารที่ดีที่สุดในโลกอันดับหนึ่ง จากทั้งหมด 50 อันดับ โดยบรรยายว่า มัสมั่นเป็น “ราชาแห่งแกง และอาจเป็นราชาแห่งอาหารทั้งปวง เต็มไปด้วยรสชาติต่าง ๆ ทั้งความเผ็ด ความหวาน และรสชาติของกะทิ” โดยซีเอ็นเอ็น ทราเวล ยังกล่าวด้วยว่า มัสมั่นเป็นอาหารที่ทำได้ง่าย เพียงแค่มีซอสสำเร็จรูปจากซูเปอร์มาร์เก็ต ก็สามารถทำมัสมั่นหน้าตาคล้ายอาหารระดับดาวมิชลินได้
ซีเอ็นเอ็น ทราเวล ยังจัดอันดับให้ต้มยำกุ้งอยู่ในอับดับที่แปด โดยบรรยายว่า ต้มยำกุ้งเป็นซุปที่มีครบทุกรสชาติความเป็นไทย มีทั้งความเปรี้ยว เค็ม เผ็ด และหวาน มีส่วนประกอบหลากหลายทั้งกุ้ง เห็ด มะเขือเทศ ตะไคร้ ข่า ใบมะกรูด และกะทิ และมักมีราคาที่ค่อนข้างถูก
นอกจากนี้ ส้มตำยังติดอันดับที่ 46 โดยซีเอ็นเอ็น ทราเวล ยกย่องให้ส้มตำไทยเป็น “สลัดชื่อดังที่สุดของไทย” ที่มี“รสชาติและความสวยงามเรียบง่าย” เมื่อเทียบกับส้มตำปูและส้มตำปลาร้า โดยการทำส้มตำเริ่มจากการโขลกกระเทียมและพริก ตามด้วยการตำน้ำมะขาม น้ำปลา ถั่วลิสง กุ้งแก้ง มะเขือเทศ น้ำมะนาว น้ำตาลปึก ถั่วฝักยาว และมะละกอดิบ เข้าด้วยกัน
ขณะเดียวกัน พจนานุกรมเคมบริดจ์ ได้บรรจุให้คำว่า “pad thai” หรือ ผัดไทย เป็นคำสากลในพจนานุกรม และไม่ใช่ชื่อเฉพาะที่ต้องเขียนนำหน้าด้วยตัวอักษรตัวใหญ่อีกต่อไป ตอกย้ำถึงการเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติของอาหารผัดจานเส้นนี้ โดยพจนานุกรมดังกล่าวให้ความหมายว่า pad thai คือ “อาหารไทยที่ประกอบด้วยเส้นก๋วยเตี๋ยวผัดกับไข่ ผัก เครื่องเทศ บางครั้งอาจใส่ชิ้นเนื้อหรืออาหารทะเล”
“ร้านเจ๊ไฝ” สตรีทฟู้ดไทยระดับมิชลิน แต่ไอดอลเกาหลีใต้ไม่ปลื้ม
ข้อมูลจากเว็บไซต์ของมิชลินไกด์ คู่มือแนะนำร้านอาหารชื่อดัง ระบุว่า “ร้านเจ๊ไฝ” ของสุภิญญา จันสุตะ หรือ เจ๊ไฝ แม่ครัวหลักเพียงหนึ่งเดียวของร้าน เปิดทำการมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 และมีชื่อเสียงจากการใช้วัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพสูงพร้อมเทคนิคการปรุงเพื่อให้อาหารหอมกลิ่นคั่วกระทะ ก่อนที่ร้านของเธอจะได้รับดาวมิชลินในปี 2018 และปี 2019 ถือเป็นร้านสตรีทฟู้ดเพียงหนึ่งในสองร้านของโลกที่ได้รับดาวมิชลิน
“เจ๊ไฝเป็นร้านโปรดของตั้งแต่คนชับแท็กซี่ไปจนถึงคออาหาร ซึ่งก็เข้าใจได้ง่ายว่าทำไม” ผู้ตรวจสอบของมิชลินกล่าว “เจ๊ไฝเป็นตำนานท้องถิ่น สวมแว่นตาประจำตัวขณะทำอาหารในกิจการที่พ่อของเธอเริ่มเมื่อ 70 ปีที่แล้ว ทั้งไข่เจียวปู ปูผัดผงกะหรี่ และโจ๊กแห้ง”
เป็นที่ทราบกันว่า ถึงแม้ร้านเจ๊ไฝจะให้บริการอาหารตามสั่ง แต่ก็ทำจากวัตถุดิบคุณภาพสูง มีขนาดใหญ่ เสิร์ฟในอาหารจานใหญ่ และมีราคาสูงกว่าอาหารตามสั่งทั่วไป ขณะที่อาหารตามสั่งในไทยมีราคาเริ่มต้นที่ราว 50 บาท เมนูกับข้าวราดข้าวของร้านเจ๊ไฝนั้นเริ่มต้นที่ราว 200 บาท และอาหารขึ้นชื่ออย่างไข่เจียวปู มีราคาถึง 1,000 – 1,200 บาทเลยทีเดียว
ผู้ที่ต้องการลิ้มรสอาหารฝีมือเจ๊ไฝ อาจต้องส่งอีเมลจองโต๊ะล่วงหน้านานนับเดือน หรืออาจ “เสี่ยงโชค” ด้วยการรอโต๊ะหน้าร้าน ซึ่งอาจต้องรอนานหลายชั่วโมง หลังจากร้านได้รับความสนใจขึ้นอย่างมากหลังจากได้รับดาวมิชลิน โดยหลายคนตั้งใจมาลองไข่เจียวปูของเจ๊ไฝ ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาต่างจากไข่เจียวปูทั่วไป ถูกทำมาในรูปทรงรี ไส้อัดแน่นไปด้วยเนื้อปูและไข่ ขณะที่ภายนอกเคลือบด้วยไข่ที่ถูกทอดอย่างสม่ำเสมอจนกรอบ เป็นเปลือกหุ้มเพื่อให้ไส้ไข่เจียวด้านในอมน้ำมันน้อยที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกคนที่จะ “ปลื้ม” กับอาหารสตรีทฟู้ดระดับมิชลินนี้ เช่น พัก จี-ฮโย สมาชิกวงทไวซ์ (Twice) เกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังจากเกาหลีใต้ ที่เผยแพร่เรื่องราวการท่องเที่ยวในไทยของเธอผ่านทางช่องยูทูบของทางวง
จี-ฮโย ตั้งใจจะไปรับประทานผัดไทยในย่านประตูผีของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นย่านที่ตั้งของร้านเจ๊ใฝเช่นกัน แต่ร้านที่เธอตั้งใจไปยังไม่เปิด เธอจึงเปลี่ยนไปรอคิวทานไข่เขียวปูร้านเจ๊ไฝแทน ซึ่งเธอให้ความเห็นว่า “เอาจริงนะคะ ไม่สมกับที่รอคิวชั่วโมงครึ่งเลยค่ะ”
อาหารไทยจานไหนอีกบ้างที่ชาวต่างชาติปลื้ม?
วีโอเอไทยสำรวจความเห็นผู้ที่อาศัยในกรุงวอชิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย รัฐแมริแลนด์ ของสหรัฐอเมริกา รวมถึงชาวต่างชาติในไทย ต่ออาหารไทยจานโปรดของพวกเขา โดยมีความเห็นที่น่าสนใจและสะท้อนถึงความหลากหลายของอาหารไทย ที่ทำให้ชาวต่างชาตินึกถึงอาหารบ้านเกิดของพวกเขา ดังต่อไปนี้
แกงแดง
“เครื่องเทศและส่วนผสมหลากหลายของแกงแดงทำให้ฉันนึกถึงอาหารบ้านเกิดที่เอเชียใต้ ถึงเครื่องเทศที่ใช้จะไม่เหมือนกัน แต่วิธีการเตรียมเครื่องเทศทั้งการใช้สด การคั่วกับน้ำมันจนมีกลิ่นหอม ทำให้ฉันนึกถึงอาหารเอเชียใต้ที่ใช้เครื่องเทศต่าง ๆ ดึงรสชาติออกมาให้ได้มากที่สุด”
ซาจานิ คอนด์เกอร์ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข วัย 32 ปี
หมูปิ้ง
“หมูปิ้งทำให้ผมนึกถึงอาหารที่ครอบครัวฝั่งเม็กซิโกของผมชอบทำ พวกเขาจะหมักหมูจนรสชาติถึงเครื่อง ย่างหมู และนำไปประกอบอาหารในรูปแบบต่าง ๆ”
โจ อัลวาเรซ ผู้จัดการด้านวิศวกรรมคลาวด์ อายุ 41 ปี
ข้าวซอย
“ผมชอบส่วนผสมของเครื่องแกงกับกะทิ สัมผัสของเส้นข้าวซอยในน้ำแกง และเครื่องโรยหน้าอย่างบะหมี่กรอบ หอมแดง ผักกาดดอง และมะนาว...ผมชอบกระบวนการทำข้าวซอยของไทย ที่เชฟมักปรับจากสูตรที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ใส่สารพัดเรื่องเทศ ความทุ่มเท และวัฒนธรรม ที่วัฒนธรรมผลิตอาหารจำนวนมากแบบตะวันตกไม่มีทางทำได้”
จัสติน เบอร์โนลด์ พนักงานเกษียณ ขอสงวนอายุ
ยำเนื้อ
“ยำเนื้อเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมเมื่อคุณต้องการทานอาหารเอเชียหรืออาหารไทยขณะกำลังคุมน้ำหนักอยู่ มันมีรสชาติสดชื่นซาบซ่าจากผักชี สะระแหน่ ซึ่งฉันไม่เห็นในอาหารเอเชียอื่น ๆ ที่มักจะมีรสชาติเข้มข้นกว่า ถึงแม้จะอร่อยเช่นกันก็ตาม”
จีนา แฟรงคลิน ขอสงวนข้อมูลส่วนตัว
กะเพราไก่ไข่ดาว
“ฉันชอบรสชาติหอมหวานของน้ำปลา บวกกับความเผ็ดร้อนและความหวานจากพริกและกะเพรา และไก่สับก็ซึมซับรสชาติทุกอย่างเป็นอย่างดี”
แคโรลีน พร็อกเตอร์ ผู้สื่อข่าว อายุ 47 ปี
ข้าวเหนียวมะม่วง
“ข้าวเหนียวมะม่วงมีรสชาติที่คุ้นเคยจากบ้านเกิด มะม่วงเองก็เป็นผลไม้เขตร้อนที่พบมากในฟิลิปปินส์ ตัวของข้าวเหนียวมูนก็คล้ายกับปูโต มายา (Puto Maya) อาหารเช้าของฟิลิปปินส์ที่ทำจากข้าวเหนียวหุงกับกะทิและขิงห่อในกรวยใบตอง”
ลอเรนซา การ์เซีย สงวนอาชีพและอายุ
ต่างชาติบางส่วนไม่ปลื้ม “แกงส้ม-ทุเรียน”
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าอาหารไทยทุกจานจะเป็นที่ถูกปากของชาวต่างชาติไปเสียทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น แกงส้ม ที่คำว่า “ส้ม” ในที่นี้ แปลว่า “เปรี้ยว” จากรสชาติของน้ำมะขามที่เป็นหนึ่งในส่วนประกอบสำคัญของอาหารจานนี้
เว็บไซต์ TasteAtlas ซึ่งเป็นเว็บไซต์แนะนำอาหารท้องถิ่นในประเทศต่าง ๆ จัดอันดับให้แกงส้มเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด อันดับที่ 14 โดยอ้างอิงจากการลงคะแนนของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ดังกล่าว
TasteAtlas ยังจัดอันดับให้แกงส้มเป็นอาหารประเภทสตูว์ที่ได้รับคะแนนแย่ที่สุดในโลก อันดับ 2 และเป็นอาหารทะเลที่ได้รับคะแนนแย่ที่สุด เป็นอันดับ 2 เช่นกัน โดยได้คะแนน 2.4 จาก 5 ดาว
อย่างไรก็ตาม เมื่อดูในเว็บไซต์ดังกล่าว ผู้ลงคะแนนส่วนใหญ่ คิดเป็น 86% ระบุว่า รู้สึก “เฉย ๆ” ต่อแกงส้ม และอีก 14% เผยว่าชอบแกงส้ม โดยไม่มีผู้ลงคะแนนคนใดกล่าวว่าไม่ชอบแกงส้มเลย
“ผมคิดว่าแกงส้มคงไม่เป็นที่ชื่นชอบของคนอเมริกันทั่วไป เพราะคนในสหรัฐฯ รู้สึกสบายใจกับ (อาหาร) ที่พวกเขาคุ้นชินมากกว่า” โจ อัลวาเรซ ชาวอเมริกันในกรุงวอชิงตัน ให้ความเห็นกับวีโอเอไทย “พวกเขาคงหยุดชะงักตั้งแต่ได้กลิ่น (แกงส้ม) หรือหากพวกเขาลองชิมด้วย ผมว่าพวกเขาคงไม่ชอบรสเปรี้ยวของมันนัก และคนอเมริกันมักไม่ใช้มะขามประกอบอาหารด้วย”
อัลวาเรซ ซึ่งเป็นชาวอเมริกันเชื้อสายฮิสแปนิกและมีภรรยาชาวไทย กล่าวต่อว่า แม้เขาจะคุ้นชินกับอาหารไทยหลายอย่าง แต่ก็ยอมรับว่า เขารู้สึก “เฉย ๆ” กับแกงส้ม แม้เขาจะคุ้นเคยกับมะขามที่เป็นส่วนประกอบในอาหารของโคอลอมเบีย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของครอบครัวทางฝั่งแม่ และอาหารเม็กซิกัน ตามพื้นเพของครอบครัวฝั่งพ่อก็ตาม
“ถึงผมจะทานมะขามมาทั้งชีวิต แต่ผมไม่เคยปลื้มแกงส้มเลย...ถ้ามีคนให้ผม ผมก็ทานได้นะ แต่ผมจะไม่สั่งมาทานเอง” เขากล่าว “แม่ยายของผมก็ทำ (แกงส้ม) เหมือนกัน เธอใช้ปลาที่ว่ายน้ำแถวบ้านของเธอนั่นแหละ สดมากเลยครับ”
อีกหนึ่งอาหารที่ขึ้นชื่อของทั้งไทยและหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นที่ทั้ง “ปลื้ม” และ “ไม่ปลื้ม” ของใครหลายคนจากกลิ่นที่แรงจนเป็นเอกลักษณ์ ก็คือราชาแห่งผลไม้อย่าง “ทุเรียน” นั่นเอง
พิพิธภัณฑ์อาหารน่าขยะแขยง Disgusting Food Museum ในเมืองมัลโม สวีเดน จัดอันดับให้ทุเรียนเป็นหนึ่งในอาหารที่น่าขยะแขยง โดยเว็บไซต์ของทางพิพิธภัณฑ์บรรยายว่า
“ทุเรียนถูกจัดเป็นราชาแห่งผลไม้ เป็นที่รู้กันว่าทุเรียนมีกลิ่นฉุนทะลุเปลือกหนาม บางคนเห็นว่าทุเรียนมีกลิ่นหอมหวาน แต่บางคนก็บอกว่ากลิ่นทุเรียนเหมือนกลิ่นหัวหอมเน่ากับท่อน้ำเสียผสมกัน บางคนบอกว่ามันมีกลิ่นเหมือนถุงเท้าที่ยังไม่ซัก หรือแมวตายทั้งฝูง ปลาเน่า เนื้อเน่าในคัสตาร์ด หรือหอมแดงที่ถูกทิ้งในห้องใต้ดินมานานหลายปีและหมักในน้ำยาล้างกาว”
พิพิธภัณฑ์ Disgusting Food Museum ยังระบุด้วยว่า ระบบขนส่งสาธารณะและโรงแรมทั่วโลกต่างมีกฎห้ามลูกค้ารับประทานทุเรียน และมีผู้เสียชีวิตหลายรายจากการรับประทานทุเรียนพร้อมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น ทุเรียนก็ยังได้รับความนิยมสูงและมีความเชื่อด้วยว่า ทุเรียนมีสรรพคุณกระตุ้นสมรรถภาพทางเพศ ตามสำนวนของมาเลเซียที่ว่า “เมื่อทุเรียนร่วงลงมา โสร่งก็ปลิวขึ้นไป”
นอกจากนี้ ชาวต่างชาติที่ให้ความเห็นกับวีโอเอไทย ยังกล่าวถึงอาหารไทยที่พวกเขาไม่ชื่นชอบอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงอาหารที่ซีเอ็นเอ็น ทราเวล จัดให้เป็นหนึ่งในอาหารที่ดีที่สุดในโลกด้วย
ส้มตำ
“มะละกอดิบถูกเครื่องปรุงกลบรสชาติได้ง่าย แล้วไม่มีอะไรที่มารองรับรสชาติจัดจ้านของเครื่องปรุงในส้มตำ ไม่เหมือนกับเวลาที่คุณปรุงรสเนื้อ ถ้าใส่มะละกอในสลัดอย่างเดียวผมรับได้นะ แต่พอใส่เครื่องปรุงจัด ๆ ไปแล้วนี่ไม่ได้เลย”
คริส บัทเทิน วิศวกรวิเคราะห์โครงสร้าง อายุ 31 ปี
กุ้งดิบ
“ผมทานอาหารไทยได้หลายอย่าง ยกเว้นกุ้งดิบ เพราะผมไม่อยากเสี่ยงติดเชื้อปรสิตจากอาหารดิบจนต้องเข้าโรงพยาบาล แล้วรสสัมผัสมันก็ลื่น ๆ เมือก ๆ ด้วย”
แมทท์ ฮัด สงวนข้อมูลส่วนตัว
- รายงานโดยวรรษมน อุจจรินทร์ VOA Thai