เจ้าหน้าที่จำนวน 250 คนออกตรวจตราทั่วเขตเมืองมุมไบที่มีคนอาศัยถึง 20 ล้านคน เพื่อบังคับใช้กฏข้อห้ามประชาชนใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก และมีร้านขายอาหารฟ้าสฟู้ดอเมริกัน รวมทั้ง เบอร์เกอร์คิง แม็คโดนัลด์ ตลอดจน สตาร์บัคส์ อยู่ในกลุ่มร้านอาหารหลายสิบแห่งที่ถูกพบว่าไม่ปฏิบัติตามข้อห้าม เเละถูกลงโทษปรับกันเเล้ว
เเต่ข้อห้ามนี้ถูกประนามโดยอุตสาหกรรมผลิตพลาสติกในประเทศ ที่บอกว่าข้อห้ามนี้จะทำให้คน 300,000 ในรัฐนี้ตกงาน
ข้อห้ามใช้พลาสติก เริ่มมีผลบังคับหลังจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย เนเรนดา โมดี สัญญาว่าจะกำจัดการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวเเล้วทิ้ง ในอินเดีย ให้หมดไปภายในปี พ.ศ. 2565 และจะเป็นประเทศผู้นำด้านความพยายามระดับทั่วโลกในการลดการใช้พลาสติกลง
ในขณะที่รัฐหลายรัฐในอินเดียได้ประกาศใช้ข้อห้ามการใช้พลาสติกเเบบเดียวกัน หรือข้อห้ามบางส่วนในช่วงหลายปี บรรดานักวิจารณ์ชี้ว่าข้อห้ามเหล่านี้ไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เพราะขาดการบังคับใช้จริงจัง
อย่างไรก็ตาม ทางการของรัฐมหาราษฏร์ สัญญาว่าจะบังคับใช้ข้อห้ามพลาสติกอย่างเคร่งครัด คนที่กระทำผิดครั้งเเรกจะถูกปรับเป็นเงิน 75 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือราว 2,200 กว่าบาท และจะปรับเเรงขึ้นหากทำผิดครั้งต่อไป และอาจถึงขั้นจำคุก
การบังคับใช้ข้อห้ามนี้อย่างเคร่งครัด สร้างความตกใจเเก่เจ้าของธุรกิจจำนวนมากที่ไม่มองหาทางเลือกอื่นเทนพลาสติก ทั้งๆ ที่ข้อห้ามนี้ประกาศออกมาเมื่อ 3 เดือนที่เเล้วก็ตาม
ในขณะที่ร้านอาหารใหญ่ๆ เริ่มใช้เครื่องใช้บนโต๊ะอาหารที่ทำจากไม้กับถ้วยน้ำกระดาษเเล้ว ร้านอาหารรายเล็กกว่ายังไม่สามารถปฏิบัติตามกฏใหม่นี้ได้ ด้านสมาคมการค้าปลีกต่างๆ ชี้ว่า ร้านขนาดเล็กจำนวนมากตกอยู่ในสภาพบังคับให้ปิดร้าน ในช่วงที่กำลังหาบรรจุภัณฑ์ทางเลือกมาใช้แทน
ทางด้านอุตสาหกรรมพลาสติกยืนยันว่า ยากมากที่จะทดแทนบรรจุภัณฑ์อาหารพลาสติกที่ใช้กับอาหารที่คนซื้อกลับบ้าน เเละได้เรียกร้องให้รัฐบาลเน้นแก้ปัญหาพลาสติกด้วยวิธีอื่นๆ อาทิ การจัดเก็บขยะพลาสติกอย่างเหมาะสม
ฮิทเทน เปดา ประธานสมาคมผู้ผลิตพลาสติกแห่งอินเดีย (All India Plastic Manufacturers Association) กล่าวว่า เราสามารถหมุนนาฬิกากลับได้เสมอ แต่ในที่สุดเเล้วคนเราก็ยังต้องบริโภคอยู่ดี เเละจะมีการสร้างขยะตามมา ดังนั้นจะเป็นต้องมีการจัดการขยะโดยเน้นการนำไปใช้อีกครั้ง การรีไซเคิลเเละการลดขยะ
ริคา อักการ์วาล แห่งศูนย์วิทยาศาสต์และสิ่งเเวดล้อมในกรุงนิวเดลลี (Center of Science and Environment) กล่าวว่า การคิดค้นบรรจุภัณฑ์ทางเลือกแทนพลาสติกยังเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น และยังไม่มีทางเลือกมากนัก
ในขณะที่สนับสนุนข้อห้ามใช้พลาสติกอย่างเเข็งขัน อักการ์วาล ได้ย้ำว่าจำเป็นต้องมีการเตรียมตัวมากกว่านี้ เพื่อค่อยๆ เลิกใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวเเล้วทิ้ง
สหประชาชาติได้ออกรายงานเมื่อเดือนนี้ โดยกระตุ้นให้รัฐบาลประเทศต่างๆ พิจารณาการห้ามใช้หรือเรียกเก็บภาษีพลาสติกบรรจุอาหารเเละเครื่องดื่มที่ใช้เเล้วทิ้ง เพื่อช่วยลดปัญหามลพิษ ซึ่งรายงานของยูเอ็นนี้ชี้ว่า ขยะพยาสติกอาจมีน้ำหนักรวมกันมากกว่าน้ำหนักของปลาทั้งหมดในมหาสุมทรทั่วโลกภายในปี พ.ศ. 2593 หรือ อีก 32 ปีข้างหน้าก็เป็นได้
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
