หนุ่มสาวอินเดีย “แย่งหางานทำ” ทศวรรษหน้าแตะพันล้าน

แม้ว่าเศรษฐกิจของอินเดียจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่การจ้างงานยังไม่เพียงพอต่อประชากรวัยหนุ่มสาวที่มีจำนวนมหาศาล รัฐบาลอินเดียกำลังดึงผู้ผลิตทั่วโลกให้เข้ามาช่วยสร้างตำแหน่งงานในประเทศ แต่ดูเหมือนว่าความต้องการของตลาดแรงงานจะมีมากกว่านั้น ซึ่งผู้ที่จบการศึกษาใหม่ในอินเดียกำลังเผชิญกับความท้าทายในการหางานที่ดี ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด

ราหุล ซิงห์ จบการศึกษาด้านเทคโนโลยี เขาได้ลาออกจากงานที่บริษัทเอกชน และใช้เวลาราวสองปี ในการเข้าเรียนกวดวิชา ที่กรุงนิวเดลี เพื่อเตรียมสอบงานราชการ

ซิงห์ บอกว่า “ผมอยากทำงานราชการ เพราะต้องการความมั่นคงในงาน ถ้าผมได้งานนี้ ทั้งชีวิตก็คงจะมีหนทางที่ชัดเจน”

อินเดียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ผู้สำเร็จการศึกษาทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจำนวนหลายหมื่นคน ใช้เวลาหลายปีในศูนย์กวดวิชาโดยหวังที่จะเอาชนะการสอบแข่งขันที่เข้มข้น แม้อัตราความสำเร็จของการสอบมีน้อยกว่า 0.25% แต่งานที่มีรายได้ดี ภายใต้ภาวะความอดอยาก ได้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญผลักดันคนหนุ่มสาวเหล่านี้เข้าสู่สนามสอบ

อาคาช ภารวัจ เผยว่าต้องการทำงานให้กับภาครัฐ เพราะที่ผ่านมารู้สึกไม่พอใจกับเงิน 200 ดอลลาร์ต่อเดือนจากการเป็นนักบัญชี และชี้ว่าเขาจะไม่ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่ดี หากทำงานให้กับธุรกิจเอกชน

เกือบครึ่งหนึ่งของประชากร 1,400 ล้านคนในอินเดียมีอายุต่ำกว่า 25 ปี คนหนุ่มสาวจำนวนมากขึ้นจากพื้นที่ชนบทกำลังศึกษาระดับปริญญา โดยตั้งใจที่จะย้ายไปอยู่ในตัวเมือง เมื่อเศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ดี สัดส่วนของธุรกิจที่จดทะเบียนกับภาครัฐ มีเพียง 8% ของการจ้างงานทั้งหมด แม้ว่ารัฐบาลกำลังชักชวนผู้ผลิตจากทั่วโลกให้เข้ามาสร้างงานเพิ่มขึ้น แต่จำนวนงานก็ยังไม่สอดคล้องกับความต้องการที่มีอยู่

อารัณ คูมาร์ นักเศรษฐศาสตร์ สะท้อนถึงการเติบโตของตลาดที่ไร้การจ้างงาน เขาอธิบายว่า “ขณะนี้ภาคส่วนที่มีการจัดระเบียบ ใช้เครื่องจักร ระบบอัตโนมัติขั้นสูง และปัญญาประดิษฐ์มากขึ้น ดังนั้น จริงๆ แล้วพวกเขากำลังเลิกจ้างงานมากกว่าการสร้างงาน จึงอาจเรียกได้ว่า เป็นการเติบโตที่ปราศจากตำแหน่งงาน”

ในอินเดีย อัตราการว่างงานของผู้สำเร็จการศึกษาระดับวิทยาลัย อยู่ที่ 13.4% สูงกว่าอัตราการว่างงานโดยรวม ซี่งอยู่ที่ระดับ 3.2%

การที่อินเดียมีคนอายุน้อยจำนวนมหาศาลถือว่าเป็นโอกาสเชิงประชากร หากสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม

คูมาร์ นักเศรษฐศาสตร์ ชี้ว่า “เราต้องทำให้คนหนุ่มสาวมีประโยชน์อย่างมาก ให้การศึกษาคุณภาพดี เพื่อที่พวกเขาจะได้มีงานทำ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ หากไม่ปฏิบัติเช่นนั้น การปันผลทางประชากร (ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอายุ - Demographic Dividend) ที่เกิดขึ้นจากคนหนุ่มสาวจำนวนมหาศาล อาจกลายเป็นหายนะได้”

ดังนั้น ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดของอินเดียที่กำลังเผชิญอยู่ คือ “การสร้างงาน” เพราะในทศวรรษหน้า อินเดียจะมีประชากรวัยทำงาน จำนวนเพิ่มขึ้นถึงหนึ่งพันล้านคน

• ที่มา: วีโอเอ