ทีมนักวิทยาศาสตร์อังกฤษ เผยการค้นพบซากฟอสซิลของสัตว์ทะเลยุคไดโนเสาร์ที่สูญพันธุ์ไปหลายสิบล้านปี ซึ่งคาดว่าจะมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกเท่าที่มีการค้นพบมา
บทความจากวารสารวิทยาศาสตร์ PLOS ONE รายงานการค้นพบฟอสซิลดึกดำบรรพ์ชิ้นล่าสุดที่เมือง Lilstock บริเวณชายฝั่งของทะเลสาป Somerset ของอังกฤษ โดยนักล่าฟอสซิล นายพอล เดอ ลา แซลล์ เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนฟอสซิล 5 ชิ้นด้วยกัน
นายดีน โลแมกซ์ นักบรรพชีวินวิทยา จากมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ เปิดเผยว่า เมื่อประกอบฟอสซิลทั้ง 5 ชิ้นรวมกันและตรวจสอบอย่างละเอียด ก็พบว่า ซากฟอสซิลที่พบนี้ คือ ส่วนขากรรไกรล่างของ Shastasaurids หนึ่งในสัตว์เลื้อยคลานใต้ทะเลในตระกูล Ichthyosaur
ทั้งนี้ ทีมวิจัยของมหาวิทยาลัยแมนเชสเตอร์ ยังบอกด้วยว่า จากการประเมินขนาดของฟอสซิล ทำให้เชื่อว่าสัตว์ทะเลโบราณที่ค้นพบล่าสุดนี้ จะมีขนาดใหญ่ราว 20-26 เมตรทีเดียว
นายโลแมกซ์ บอกด้วยว่า นี่ถือเป็นฟอสซิลส่วนขากรรไกรของ Ichthyosaur ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่มีการค้นพบมา เพราะมีขนาดใหญ่กว่าฟอสซิลที่ถูกพบใน British Columbia ของแคนาดา เมื่อ 14 ปีก่อน ซึ่งเป็นของ Shonisaurus Sikanniensis สัตว์ในตระกูลเดียวกันถึงร้อยละ 25
และนี่จะเป็นสัตว์ใต้ทะเลที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากวาฬสีน้ำเงิน ที่ยังครองแชมป์สัตว์ใต้ทะเลขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่ยังไม่สูญพันธุ์
สัตว์ทะเลโบราณตระกูล Ichthyosaurs แหวกว่ายอยู่ในมหาสมุทรในช่วงปลายยุคไทรแอสสิค ตั้งแต่ 250 ล้านปี ถึง 90 ล้านปี ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นที่ไดโนเสาร์ได้ถือกำเนิดขึ้นบนโลก ดำรงชีพด้วยการกินสัตว์ทะเลจำพวกปลาและหมึกน้อยใหญ่ และสัตว์โบราณเหล่านี้เริ่มสูญพันธุ์ไปราว 30 ล้านปี ก่อนที่ไดโนเสาร์จะเริ่มสูญพันธุ์