นักวิทยาศาสตร์กำลังศึกษาซากกระดูกของสัตว์ประหลาดโบราณใต้ทะเลอายุ 170 ล้านปี ซึึ่งค้นพบที่ Isle of Skye ในสก็อตแลนด์ บรรดานักบรรพชีวินวิทยาต่างตื่นเต้นที่ได้ปะติดปะต่อโครงกระดูกของสัตว์ประหลาดใต้ทะเลตัวนี้จนใกล้เสร็จสมบูรณ์เเล้ว
Stephen Brusatte นักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Edinburgh ในสก็อตแลนด์กล่าวว่ามีชิ้นกระดูกทั้งหมดกว่า 100 ชิ้น เป็นโครงกระดูกเกือบสมบูรณ์ ตนและทีมงานตื่นเต้นมากที่จะได้ลงมือศึกษาวิเคราะห์กันเสียทีว่าสัตว์เลื้อยคลานโบราณตัวนี้คืออะไร?
นักวิทยาศาสตร์รู้ว่าสัตว์เลี้อยคลานตัวนี้มีความยาวมากกว่า 4 เมตร และเป็นสัตว์ในตระกูลสัตว์ทะเลโบราณที่เรียกว่า ichthyosaurs ที่คล้ายคลึงกับปลาโลมา สัตว์เลี้อยคลานทะเลโบราณนี้ว่าน้ำได้เร็วมาก มีฟันลักษณะทรงกรวยหลายร้อยซี่ และกินปลากับปลาหมึกเป็นอาหาร
ทีมนักวิทยาศาสตร์ที่สก็อตเเลนด์ทีมนี้หวังว่า จะสามารถเข้าใจลักษณะทางนิเวศวิทยาของสัตว์โบราณชนิดนี้มากขึ้น ตลอดจนสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับยุคจูลาสสิคตอนกลางจากราว 160 ถึง 180 ล้านปีที่แล้ว เเละเนื่องจากมีการค้นพบซากฟอสซิลที่มีกำเนิดในยุคนี้น้อย การค้นพบซากสัตว์เลื้อยคลานใต้ทะเลโบราณตัวนี้จึงมีความสำคัญมาก
Stephen Brusatte นักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Edinburgh ในสก็อตแลนด์กล่าวว่า ซากกระดูกที่ค้นพบนี้เป็นซากกระดูกที่ดีเพียงชุดเดียวของสัตว์เลี้อยคลานใต้ทะเลโบราณในยุคจูลาสสิคตอนกลาง ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่น่าสนใจมากทางด้านการวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตบนโลก โดยมีไดโนเสาร์กลุ่มใหม่ๆ เกิดขึ้น และสัตว์เลื้อยคลานใต้ทะเลก็ถือกำเนิดขึ้นในช่วงนี้ เเล้วเริ่มขยายจำนวนไปทั่วโลก
สัตว์เลื้อยคลานใต้ทะเลโบราณพันธุ์นี้ เหมือนกับสัตว์ทะเลโบราณตระกูล ichthyosaurs อื่นๆ ที่เริมสูญพันธุ์ไปเมื่อราว 95 ปีที่แล้ว หรือ 30 ล้านปีก่อนหน้าที่ไดโนเสาร์เริ่มสูญพันธุ์
Stephen Brusatte นักบรรพชีวินวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย Edinburgh ในสก็อตแลนด์กล่าวว่า ดูเหมือนว่าได้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นในมหาสมุทรแห่งต่างๆ ทั่วโลก ทั้งทางด้านเคมีและด้านนิเวศวิทยาในทะเล ทำให้สัตว์เลื้อยคลานทะเลตระกูล ichthyosaurs เริ่มลดจำนวนลง และลดความหลากหลายลงจนหายสาปสูญไปในที่สุด ก่อนหน้าที่จะมีปลาฉลาม ปลาวาฬ และปลาโลมาถือกำเนิดขึ้นในเวลาถัดมา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา สัตว์ประหลาดใต้ทะเลโบราณชนิดนี้เป็นที่มาของจินตนาการต่างๆ ของคนเรา และนักวิทยาศาสตร์วางเเผนว่าจะนำโครงกระดูกฟอสซิลของสัตว์เลี้อยคลานใต้ทะเลตัวนี้ออกมา เเสดงให้คนทั่วไปได้ชมกันในอนาคตอย่างเเน่นอน
(รายงานโดย Deborah Block / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)