ฮุนได จับมือฮอนด้า-โตโยต้า ขึ้นค่าแรง หลังสหภาพบรรลุข้อตกลง

ค่ายรถเกาหลีใต้ ฮุนได ประสานมือกับค่ายรถญี่ปุ่นทั้งฮอนด้าและโตโยต้า ในการปรับขึ้นค่าแรงพนักงานโรงงานรถยนต์ หลังจากสหภาพแรงงานรถยนต์ของสหรัฐฯ (UAW) บรรลุข้อตกลงใหม่กับค่ายรถยนต์ที่โรงงานในดีทรอยต์

ฮุนได ระบุเมื่อวันจันทร์ว่าจะขึ้นค่าแรงคนงานโรงงาน 25% ภายในปี 2028 เทียบเท่ากับค่าจ้างทั่วไปที่เพิ่มขึ้นของคนงานในสหภาพแรงงานในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ฝั่งโตโยต้า จะจ่ายค่าแรงเพิ่ม 9-10% เริ่มต้นเดือนมกราคมปีหน้า ส่วนฮอนด้าจะขึ้นค่าแรง 11% ในช่วงเวลาเดียวกันนี้

ผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงานมองว่าการปรับขึ้นค่าแรงนี้ อย่างน้อยก็เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการขัดขวางกลยุทธ์ของสหภาพแรงงานรถยนต์ของสหรัฐฯ ที่พยายามเพิ่มอำนาจต่อรองของสหภาพกับโรงงานรถยนต์ของบริษัทต่างชาติที่ตั้งฐานในสหรัฐฯ ขณะที่ประธานสหภาพระบุว่าผู้บริหารบริษัทรถยนต์ที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพต่างหวาดหวั่นและปรับขึ้นค่าแรงกันทั้งสิ้น

สมาชิกสหภาพ UAW ราว 146,000 คนกำลังโหวตสัญญาใหม่กับเจเนรัล มอเตอร์ส ฟอร์ด และสเตแลนทิส เพื่อให้เพิ่มค่าแรง 25% ในระยะ 4 ปี กับอีก 8 เดือนข้างหน้า และเมื่อรวมกับค่าครองชีพต่าง ๆ แรงงานจะได้ค่าจ้างเพิ่มขึ้นราว 33% โดยพนักงานในสายงานประกอบในระดับสูงสุดจะได้รับค่าจ้างราว 42 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง

ฝั่งโตโยต้าและฮอนด้า ได้เร่งเวลาที่จะให้พนักงานที่เพิ่งเริ่มงานใหม่ ๆ ได้รับค่าจ้างในระดับสูง ในกรอบเวลาที่ใกล้เคียงกับสัญญาใหม่ของสมาชิกสหภาพ UAW โดยกรณีของโตโยต้าคาดว่าจะปรับขึ้นค่าแรงพนักงานโรงงานในระดับสูงสุดอยู่ที่ 34.80 ดอลลาร์ต่อชั่วโมงในเดือนมกราคมปีหน้า

แฮร์รี แคตซ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยคอร์แนล ผู้เชี่ยวชาญด้านการเจรจาต่อรองระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ให้ทัศนะกับเอพีว่า ข้อตกลงของ UAW ได้ช่วยเพิ่มค่าแรงกับโรงงานที่ไม่ได้อยู่ในสหภาพด้วยเช่นกัน และว่า “บริษัทเหล่านี้ต้องการอยู่นอกกลุ่มสหภาพแรงงาน และพยายามจะปรับค่าแรงให้ใกล้เคียงกับค่าจ้างแรงงานระดับสูงของโรงงานในดีทรอยต์ทั้งสิ้น”

• ที่มา: เอพี