สหภาพแรงงานรถยนต์ของสหรัฐฯ หรือ UAW และบริษัท Stellantis กลับมานั่งโต๊ะเจรจากันอีกครั้งในวันจันทร์ ระหว่างที่แรงงานจากบริษัทผู้ผลิตยานยนต์จากดีทรอยต์ 3 แห่งผละงานประท้วงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ตามรายงานของรอยเตอร์
ตัวแทนสหภาพฯ และตัวแทนจากค่ายรถยนต์รายใหญ่ 3 แห่งของสหรัฐฯ ซึ่งเรียกว่า “Big Three” ได้แก่ General Motors, Ford และ Stellantis จับเข่าคุยกันตั้งแต่สุดสัปดาห์ ในความพยายามที่จะยุติการประท้วงครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปีของแรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์อเมริกัน
เงื่อนไขของแรงงานในการประท้วงครั้งนี้ คือ การขอขึ้นค่าแรง 20% ในระยะ 4 ปีครึ่ง ซึ่งน้อยกว่าเงื่อนไขที่เคยเสนอไปจนถึงช่วงปี 2027 นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ลดจำนวนวันในการทำงานต่อสัปดาห์ ฟื้นฟูระบบบำนาญ และเพิ่มความมั่นคงของตำแหน่งงาน ในช่วงที่ผู้ผลิตรถยนต์ปรับเปลี่ยนไปพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
ประธานสหภาพแรงงานรถยนต์ของสหรัฐฯ ชอว์น เฟน เปิดเผยกับ NPR ในวันจันทร์ว่า มีการพูดคุยกันเล็กน้อยเมื่อสุดสัปดาห์ และหนทางยังอีกยาวไกล ส่วนเรื่องการประท้วงว่าจะยืดเยื้อหรือขยายออกไปที่โรงงานอื่นหรือไม่นั้น เฟน กล่าวเพียงว่า สหภาพพร้อมที่จะทำหากจำเป็น
ในการประท้วงครั้งนี้ มีแรงงานที่อยู่ในสหภาพฯ ราว 12,700 คนเข้าร่วม และเป็นการรวมตัวเดินขบวนของแรงงาน 3 ค่ายรถใหญ่ของอเมริกาเป็นครั้งแรก สะท้อนถึงช่วงเวลาที่สหภาพแรงงานทั่วอเมริกาได้รับการยอมรับในระดับสูงจากเหล่าสมาชิกในการเป็นตัวแทนผลักดันเรื่องค่าแรงและสวัสดิการต่าง ๆ ของพวกเขามากขึ้น
การประท้วงครั้งนี้ยังส่งผลกระทบให้มีการระงับการผลิตที่โรงงานรถยนต์ในรัฐมิชิแกน โอไฮโอ และมิสซูรี ซึ่งผลิตรถยนต์ Ford Bronco, Jeep Wrangler และ Chevrolet Colorado และรถยนต์รุ่นยอดนิยมอื่น ๆ ด้วย
นักวิเคราะห์ต่างให้ความเห็นว่า ผู้บริหารอุตสาหกรรมยานยนต์ ต่างตั้งคำถามว่าอีกนานแค่ไหนถึงจะมีการประท้วงรอบใหม่เพื่อสร้างแรงกดดันกับบริษัทยานยนต์รายอื่น ๆ
ด้านแจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่ายังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบของการประท้วงต่อเศรษฐกิจอเมริกัน แต่หวังว่าการเจรจาระหว่างสหภาพและบริษัทรถยนต์จะได้ข้อสรุปในเร็ววัน
- ที่มา: รอยเตอร์
กระดานความเห็น