นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีจีน หัวเหว่ย บอกปัดการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ใส่ชื่อหัวเหว่ยไว้ในบัญชีดำของบริษัทที่ถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงต่อสหรัฐฯ
นายเหริน ให้สัมภาษณ์กับสื่อของทางการจีน กล่าวว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ประเมินศักยภาพของบริษัทหัวเหว่ยในด้านเครือข่ายโทรคมนาคม 5G ต่ำเกินไป
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อประกาศภาวะฉุกเฉินและห้ามบริษัทต่างๆ ในสหรัฐฯ ใช้อุปกรณ์สื่อสารโทรคมนาคมที่ผลิตโดยองคกรที่สร้างความเสี่ยงด้านความมั่นคงต่อสหรัฐฯ ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นการนำไปสู่มาตรการห้ามบริษัทอเมริกันทำธุรกิจกับบริษัทโทรคมนาคมจีน โดยเฉพาะบริษัทหัวเหว่ย อย่างเต็มรูปแบบ
รัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่า อุปกรณ์ของบริษัทหัวเหว่ยถูกนำมาใช้ในการสอดแนมและลักลอบเก็บข้อมูลความลับต่างๆ ของบริษัทอเมริกัน
และเมื่อวันจันทร์ บริษัทกูเกิล ประกาศระงับการทำธุรกิจกับบริษัทหัวเหว่ย ในส่วนที่ต้องมีการถ่ายโอนฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ และบริการด้านเทคโนโลยีต่างๆ
ปัจจุบัน หัวเหว่ยคือผู้ผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนรายใหญ่อันดับสองของโลก รองจาก ซัมซุง โดยมียอดขาย 208 ล้านเครื่องเมื่อปีทีี่แล้ว ในจำนวนนี้เกือบครึ่งหนึ่งขายในตลาดต่างประเทศ
นักวิเคราะห์เชื่อว่า โทรศัพท์หัวเหว่ยในจีนจะไม่ได้รับผลกระทบจากการระงับความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับกูเกิลมากนัก เนื่องจากบริการส่วนใหญ่ของกูเกิลถูกห้ามใช้ในจีนอยู่แล้ว แต่จะมีผลต่อตลาดในต่างประเทศที่ลูกค้าส่วนใหญ่ยังนิยมใช้บริการของกูเกิลมากกว่า