การสู้รบระหว่างกองทัพและกองกำลังเคลื่อนที่เร็ว (อาร์เอสเอฟ) ของซูดานยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องภายในและรอบ ๆ กรุงคาร์ทูม ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี แม้ว่าจะมีการประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 สัปดาห์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปแล้วก็ตาม
รายงานข่าวระบุว่า ทั้งสองฝ่ายต่างดูเหมือนกำลังพยายามที่จะผลักดันอีกฝ่ายให้ออกไปจากกลางเมืองหลวงของซูดาน เพื่อควบคุมพื้นที่รอบ ๆ ทำเนียบประธานาธิบดีและที่ทำการใหญ่ของกองทัพอยู่
ในวันพุธที่ผ่านมา อันโตนิโอ กูเทอเรซ เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เรียกร้องให้มีการยุติการสู้รบในซูดานและขอให้นานาชาติส่งความช่วยเหลือไปยังชาวซูดานที่กำลังประสบมหันตภัยด้านมนุษยธรรมอยู่
กูเทอเรซ กล่าวระหว่างการแถลงข่าวในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ว่า “ต้องมีการอนุมัติให้มีการส่งความช่วยเหลือเข้าไปในซูดาน และเราต้องจัดหาเส้นทางที่ใช้งานได้ทันทีเพื่อการแจกจ่าย[ความช่วยเหลือนี้]ไปให้ผู้ที่ต้องการมากที่สุด” และพร้อมย้ำว่า ต้องมีการปกป้องพลเรือน โครงสร้างพื้นฐานพลเรือน และเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมรวมทั้งสิ่งจำเป็นในการปฏิบัติงานและชุดความช่วยเหลือต่าง ๆ สำหรับซูดานด้วย
องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (Office for the Coordination of Humanitarian Affairs - OCHA) เปิดเผยในสัปดาห์นี้ว่า มีประชาชนไม่น้อยกว่า 334,000 คนที่กลายมาเป็นคนพลัดถิ่นภายในซูดานหลังเกิดการสู้รบขึ้น ขณะที่ มีประชาชนอีกราว 100,000 คนที่หนีภัยออกนอกประเทศไปแล้ว โดยองค์กรแห่งนี้เตือนด้วยว่า ความไม่สงบนี้อาจทำให้ผู้คนกว่า 800,000 คนต้องลี้ภัยออกไปนอกซูดานในที่สุด
รายงานข่าวระบุว่า ประเทศที่หลายคนเลือกที่จะลี้ภัยไปนั้นมีพรมแดนติดกับซูดาน อันได้แก่ ชาด เซาท์ซูดาน สาธารณรัฐแอฟริกากลาง อียิปต์ และเอธิโอเปีย
ปฏิบัติการด้านมนุษยธรรม
มาร์ติน กริฟฟิธ หัวหน้าหน่วยงานด้านมนุษยธรรมขององค์การสหประชาชาติ เดินทางมายังพอร์ตซูดานในวันพุธ ซึ่งเป็นเมืองท่าติดทะเลแดงของซูดานและเป็นจุดที่องค์กรที่ไม่ใช่ของรัฐ หรือ NGO (nongovernmental organization) จำนวนมากย้ายหน่วยปฏิบัติการของตนออกจากกรุงคาร์ทูมมาตั้งที่นี่
กริฟฟิธ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ตนกำลังทำงานเพื่อฝ่ายที่สู้รบกันอยู่ในซูดานยอมให้คำมั่นที่จะปกป้องงานการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ต่าง ๆ รวมทั้งเสบียงคลังทั้งหลายเดินทางผ่านไปได้ แม้ว่าจะไม่มีการประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการก็ตาม
ขณะเดียวกัน มีรายงานเกี่ยวกับการปล้นสะดมหน่วยงานให้ความช่วยเหลือมนุษยธรรมต่าง ๆ ด้วย อย่างเช่น โครงการอาหารโลก (World Food Program – WFP) ที่เปิดเผยในวันพุธว่า อาหารจำนวนเกือบ 17,000 ตันขององค์กรถูกปล้นออกไปจากคลังหลายแห่งทั่วซูดาน
ก่อนหน้าที่จะเกิดการสู้รบรอบนี้ในซูดาน WFP มีอาหารในคลังในซูดานถึงกว่า 80,000 ตัน
แต่แม้จะเกิดเหตุการณ์ปล้นสะดม WFP วางแผนจะเดินหน้าส่งความช่วยเหลือด้านอาหารให้ประชาชนราว 384,000 คนในช่วงไม่กี่วันข้างหน้าต่อไป
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี รอยเตอร์ และเอเอฟพี
