รัฐบาลประเทศเยเมนกับองค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังรีบเร่งในการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด (measles) ให้เเก่เด็ก 5 ล้านคน
แต่ในสหรัฐฯ พ่อเเม่หลายคนไม่ยอมให้ลูกเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้
Dr. Peter Hotez นักพัฒนาวัคซีน และอธิการบดีแห่งวิทยาลัยการเเพทย์เบเยอร์ที่เมืองฮูสตั้นในเท็กซัส กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า การต่อต้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดในเท็กซัสขณะนี้ "น่าเป็นห่วง" เพราะการต่อต้านการฉีดวัคซีนโดยกลุ่มพ่อเเม่เริ่มขยายกว้างมากขึ้น โดย Dr. Hotez กล่าวว่ามีคนเข้าร่วมจำนวนมาก
Dr. Hotez กล่าวว่า "การต่อต้านวัคซีนเป็นการเคลื่อนไหวที่เป็นกลุ่มเป็นก้อน คาดว่าน่าจะมีเด็กราว 50,000 คนที่พ่อเเม่ไม่ยอมให้เข้ารับการฉีดวัคซีน"
Dr. Hotez และบรรดาเเพทย์คนอื่นๆ กำลังกังวลว่า โรคหลายๆ โรค อาจจะกลับมาระบาดอีกในสหรัฐฯ ทั้งๆ ที่ถูกกำจัดให้หมดไปจากประเทศเเล้วก็ตาม โดยเฉพาะโรคหัดซึ่งเป็นเชื้อที่ติดต่อกันง่ายมาก เป็นโรคที่ทำให้ป่วยหนักและอาจถึงเเก่ชีวิตได้
บรรดาเเพทย์กังวลว่า ประชาชนอาจจะได้รับข้อมูลที่ผิดพลาดจากคนมีชื่อเสียงหลายๆ คน และเเม้เเต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ที่กล่าวในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งในฐานะตัวแทนลงเเข่งขันจากพรรครีพับลิกัน ที่กล่าวว่า "วัคซีนป้องกันโรคหัดทำให้เด็กเป็นโรคออทิสซึ่ม"
แต่ Dr. Hotez กล่าวว่า "ไม่มีหลักฐานยืนยันความเกี่ยวข้องระหว่างการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัดกับโรคออทิสซึ่มตามที่กล่าวอ้างนี้"
เขากล่าวว่า "วงการเเพทย์ในสหรัฐฯ มีข้อมูลมหาศาลที่ชี้ว่า สมองของเด็กที่เป็นออทิสซึ่ม เกิดความบกพร่องด้านการพัฒนามาตั้งเเต่อยู่ในครรภ์มารดา เป็นความบกพร่องในสมองที่เกิดขึ้นก่อนหน้าที่เด็กจะได้รับวัคซีนนานมาก"
Dr. Hotez กังวลว่าโรคติดต่อร้ายเเรงอย่างโรคหัดจะกลับมาระบาดอีกในสหรัฐฯ และยังวิตกด้วยว่า การต่อต้านการฉีดวัคซีนป้องกันโรคนี้อาจจะขยายวงกว้างออกไปในทั่วโลก ไปยังประเทศที่มีประชากรจำนวนมากอย่างอินเดีย จีน และไนจีเรีย
ความกังวลนี้เป็นเหตุให้ Dr. Hotez ออกมารณรงค์ในเรื่องนี้ เขากล่าวว่า
"ถึงเวลาเเล้วที่นักวิทยาศาสตร์ต้องออกมาเผยเเพร่ข้อมูลเพื่อให้ความรู้ที่ถูกต้องเเก่พ่อเเม่ เพื่อช่วยให้พวกเขาตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง และป้องกันไม่ให้ลูกต้องเจ็บป่วยด้วยโรคติดต่อร้ายเเรงที่ป้องกันได้"
(เรียบเรียงทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)
