ผลสำรวจเผย ชาวอเมริกันหนุนยูเครนเดินหน้าต่อไป - ชาวยูเครนนิยมกองทัพยิ่งกว่า ปธน.

วีโอเอชวนดูผลสำรวจ Gallup บริษัทวิเคราะห์และให้คำปรึกษา ที่เผยถึงความเห็นของสาธารณะต่อความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ขณะที่สงครามดำเนินมากว่าหนึ่งปีแล้ว

Gallup ระบุว่า ทั้งรัสเซียและยูเครนดูเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งที่จะยืดเยื้อต่อไป โดยยูเครนยังคงมุ่งมั่นสู้รบขณะที่สหรัฐฯ และชาติพันธมิตรยังคงสนับสนุนยูเครนต่อไป อย่างไรก็ตาม รัสเซียอาจปรับตัวต่อการถูกโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจได้มากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งอาจทำให้ชาติตะวันตกต้องคิดคำนวณใหม่ว่า จะทำอย่างไรต่อไปเพื่อยุติความขัดแย้งนี้โดยให้ยูเครนได้ประโยชน์

ชาวอเมริกันส่วนใหญ่หนุนยูเครนเดินหน้าต่อไป แม้อาจทำให้สงครามยืดเยื้อ

ผลสำรวจทางเว็บไซต์โดยแกลลัพ เมื่อวันที่ 3 – 22 ม.ค. เผยว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 65% สนับสนุนให้สหรัฐฯ สนับสนุนยูเครนให้เดินหน้ายึดพื้นที่ของตนคืน แม้ว่าอาจทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อออกไปก็ตาม ขณะที่อีก 31% สนับสนุนให้สหรัฐฯ ยุติสงครามโดยเร็ว แม้จะทำให้รัสเซียได้พื้นที่ที่ยึดไปบางส่วนก็ตาม

ผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นในช่วงที่รัสเซียและยูเครนอยู่ในช่วงคุมเชิงกันอยู่ ขณะที่สหรัฐฯ เยอรมนี และพันธมิตรตะวันตกอื่น ๆ กำลังเจรจาเพื่อเพิ่มการสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน โดยหลังผลสำรวจนี้จัดทำเสร็จไม่นาน ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ก็ประกาศว่า สหรัฐฯ จะส่งรถถัง 31 คันให้ยูเครน

ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเกือบครึ่งเห็นว่าสหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนมากเกินไป

ผลสำรวจเดียวกันของแกลลัพยังเผยว่า ชาวอเมริกัน 39% เห็นว่า สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนอย่างเหมาะสมแล้ว ซึ่งเป็นจำนวนมากกว่าผู้ที่คิดว่าสหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนน้อยไป (30%) หรือมากเกินไป (28%)

ผลสำรวจยังชี้ว่า ผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันเกือบครึ่ง (47%) เห็นว่า สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนมากเกินไป ขณะที่ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต 48% เห็นว่า สหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนอย่างเหมาะสมแล้ว และอีก 41% เห็นว่า สหรัฐฯ ยังช่วยเหลือยูเครนน้อยเกินไป ชณะที่กลุ่มผู้ที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคใดเป็นพิเศษมีความเห็นต่างกันออกไป โดยมีผู้ที่เห็นว่าสหรัฐฯ ช่วยเหลือยูเครนมากเกินไป และช่วยเหลือกำลังดีแล้ว เป็นจำนวนเท่ากันอยู่ที่ราว 35%

Gallup สรุปว่า ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มเห็นว่าสหรัฐฯ ยังช่วยเหลือยูเครนไม่มากพอ มากกว่าผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันและผู้ที่ไม่ได้สนับสนุนพรรคใดเป็นพิเศษ

ทั้งนี้ แกนนำพรรครีพับลิกันให้ความสำคัญต่อการรักษาสหรัฐฯ ให้ห่างจากการเป็นคู่ขัดแย้งโดยตรงกับรัสเซีย และไม่มอบ “เช็คเปล่า” หรือการช่วยเหลืออย่างไม่มีขีดจำกัดต่อยูเครน นอกจากนี้ ชาวพรรครีพับลิกันยังกังวลถึงความโปร่งใสของรัฐบาลยูเครนในการบริหารจัดการความช่วยเหลือที่ได้รับอย่างมีประสิทธิภาพ

ความเชื่อมั่นของชาวยูเครนต่อสถาบันหลักของชาติ เพิ่มสูงขึ้นเป็นสถิติใหม่

ผลสำรวจของแกลลัพในช่วงต้นเดือนกันยายนเผยว่า ชาวยูเครนสนับสนุนผู้นำและสถาบันหลักของประเทศมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

ผลสำรวจเผยว่า ชาวยูเครน 84% เห็นด้วยกับผลงานของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ซึ่งเป็นคะแนนนิยมที่สูงที่สุดที่เขาเคยได้รับ และเป็นคะแนนที่สูงกว่าที่ผู้นำยูเครนคนใดเคยได้รับในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ กองทัพยูเครนยังได้รับความนิยมมากยิ่งกว่าตัวประธานาธิบดี โดยชาวยูเครน 94% แสดงความเชื่อมั่นต่อกองทัพของประเทศ

Gallup เผยว่า ในปี 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่ยูเครนรับมือกับการระบาดของโรคโควิด-19 และภาครัฐเผชิญข้อกล่าวหาการทุจริตอย่างเป็นระบบนั้น ผู้นำและสถาบันหลักของยูเครนยังไม่ได้รับความนิยมมากในระดับนี้ โดยขณะนั้นชาวยูเครนเพียง 21% แสดงความมั่นใจต่อรัฐบาลแห่งชาติ และมีเพียง 41% ที่เห็นด้วยกับผลงานของ ปธน. เซเลนสกี

มุมมองของชาวยูเครนต่อการทำสงครามกับรัสเซีย (แบ่งตามภาค)

ผลสำรวจของ Gallup ที่จัดทำเมื่อวันที่ 2 – 11 กันยายนที่ผ่านมา เผยว่า ชาวยูเครนส่วนใหญ่สนับสนุนให้ยูเครนสู้รบต่อไปจนกว่าจะชนะ โดยชาวยูเครนที่อยู่ห่างไกลจากพื้นที่สมรภูมิจะสนับสนุนให้ยูเครนทำสงครามต่อไปมากกว่า เมื่อเทียบกับชาวยูเครนที่อยู่ใกล้กับพื้นที่ความขัดแย้ง

ชาวยูเครนที่สนับสนุนให้ทำสงครามต่อไป มีมากที่สุดในกรุงเคียฟ (83%) และทางภาคตะวันตก (82%) ภาคกลาง (78%) และภาคเหนือ (75%) ขณะที่ชาวยูเครนสัดส่วนน้อยกว่าในภาคตะวันออก (56%) และภาคใต้ (58%) สนับสนุนการเดินหน้าทำสงคราม

ผลสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นในช่วงที่กองทัพยูเครนยึดพื้นที่ที่รัสเซียยึดครองกลับมาได้ แต่เป็นช่วงก่อนที่รัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีโต้ตอบยูเครนด้วยเช่นกัน

ชาวยูเครนเกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยต่อบทบาทของผู้นำรัสเซีย

อีกผลสำรวจของ Gallup ที่จัดทำขึ้นในช่วงเดียวกันเผยว่า ชาวยูเครนเกือบทั้งหมด (96%) ไม่เห็นด้วยต่อบทบาทผู้นำของรัสเซีย และมีชาวยูเครนน้อยกว่า 0.5% ที่เห็นด้วยต่อบทบาทดังกล่าวของรัสเซีย

ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นทั่วยูเครน รวมถึงในดินแดนสี่แห่งทางใต้และทางตะวันออกของประเทศที่ถูกรัสเซียยึดครอง โดยเมื่อวันที่ 23 ก.ย. รัสเซียจัดทำประชามติในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อผนวกพื้นที่ทั้งสี่แห่งเข้ากับตนและประกาศใช้กฎอัยการศึก

ผลสำรวจนี้จัดทำขึ้นก่อนที่รัสเซียจัดทำประชามติดังกล่าว ซึ่งในครั้งนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามเกือบทั้งหมดไม่เห็นด้วยต่อท่าทีของผู้นำรัสเซียเลย ยกเว้นผู้ตอบแบบสอบถามจำนวนน้อยมากที่อยู่ทางตะวันออกของประเทศที่ยังคงเห็นด้วยกับผู้นำรัสเซีย

Gallup ระบุว่า สงครามรัสเซีย – ยูเครนครั้งนี้ ทำลายแรงสนับสนุนรัสเซียในยูเครนไปจนเกือบหมดสิ้น ซึ่งชาวยูเครนเคยสนับสนุนรัสเซียอย่างมากจนกระทั่งรัสเซียเข้ายึดแคว้นไครเมียนเมื่อปี 2014 และสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน

ชาวยูเครนส่วนใหญ่หวัง ยูเครนจะได้เข้าร่วมนาโต้ - อียู ในอีก 10 ปี

ผลสำรวจของ Gallup เมื่อวันที่ 2 -11 กันยายนที่ผ่านมา เผยว่า สงครามครั้งนี้ผลักดันให้ยูเครนเข้าหาองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ รวมถึงชาติตะวันตกมากขึ้น โดยชาวยูเครนส่วนใหญ่เห็นว่า ยูเครนจะสามารถเข้าร่วมนาโต้และสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้อีกภายในสิบปีข้างหน้า

ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำขึ้นในช่วงที่ยูเครนเริ่มปฏิบัติการโต้กลับเพื่อยึดคืนพื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึดไปก่อนหน้า โดยก่อนหน้านี้ ยูเครนเคยต้องการเข้าร่วมนาโต้และอียูแต่ไม่เคยดำเนินการสมัครอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงปลายเดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงหลังจากที่รัสเซียจัดทำประชามติเพื่อผนวกดินแดนสี่แห่งของยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ได้ส่งใบสมัครของยูเครนเพื่อเข้าร่วมนาโต้อย่างเป็นทางการ

• ที่มา: Gallup