ผลการสำรวจที่จัดทำขึ้นโดย AP-NORC เมื่อ 12-16 พฤษภาคม ชี้ให้เห็นว่า แม้ว่าชาวอเมริกันโดยรวมยังคงสนับสนุนมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียต่อกรณีบุกยูเครน แต่ความเห็นต่อมาตรการลงโทษที่กระทบต่อเศรษฐกิจเริ่มเปลี่ยนแปลงไปในมุมมองของชาวอเมริกันในการสำรวจล่าสุดนี้
โดย 45% ของชาวอเมริกันวัยผู้ใหญ่ในการสำรวจ เห็นว่า สหรัฐฯ ควรให้ความสำคัญต่อการใช้มาตรการลงโทษต่อรัสเซียอย่างมีประสิทธิภาพที่สุดเท่าที่ทำได้ ขณะที่ 51% เห็นว่า มาตรการเหล่านั้นควรจำกัดความเสียหายต่อเศรษฐกิจอเมริกันด้วยเช่นกัน
ในการสำรวจเมื่อเดือนมีนาคมและเมษายน มุมมองของมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียของชาวอเมริกันแตกต่างจากปัจจุบันมาก โดยเมื่อเดือนมีนาคม ชาวอเมริกัน 55% ในการสำรวจ เห็นว่า สหรัฐฯ ควรให้น้ำหนักกับการลงโทษทางเศรษฐกิจของรัสเซียให้ได้ผลมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
การเปลี่ยนแปลงทัศนะของชาวอเมริกันล่าสุดนี้ สะท้อนถึงปัญหาเงินเฟ้อที่สะเทือนครัวเรือนอเมริกัน ตั้งแต่ราคาน้ำมัน ราคาอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น บีบคั้นชีวิตของชาวอเมริกันนับล้านชีวิต ซึ่งกระทบต่อการช่วยเหลือยูเครนทางการเงินด้วยเช่นกัน และกระทบต่อคะแนนนิยมในตัวประธานาธิบดีโจ ไบเดน ให้ลดต่ำสุดนับตั้งแต่รับตำแหน่งมา
โดยเมื่อถามถึงความเชื่อมั่นต่อปธน.ไบเดน ในการรับมือกับสถานการณ์ยูเครน พบว่า 21% ของชาวอเมริกัน ยังเชื่อมั่นในตัวไบเดน ส่วน 39% เห็นว่ามีความเชื่อมั่นอยู่บ้าง และอีก 39% แทบจะไม่เชื่อมั่นในตัวผู้นำสหรัฐฯ ในการรับมือวิกฤตรัสเซียยูเครน
เมื่อมองในระดับมาตรการ ในการสำรวจนี้ พบว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ ยังคงสนับสนุนการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซีย ทั้งการแบนนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย และการสนับสนุนด้านอาวุธแก่ยูเครน และชาวอเมริกัน 32% ในการสำรวจ ยังเห็นว่า สหรัฐฯ ควรมีบทบาทหลักในสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และ 49% เห็นว่า สหรัฐฯ ควรมีบทบาทรองลงมากับความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
โดยรวมแล้ว 45% ของชาวอเมริกัน ยังคงยอมรับคณะทำงานของปธน.ไบเดน ในการจัดการความสัมพันธ์กับรัสเซีย ขณะที่ 54% ไม่ยอมรับ ซึ่งอยู่ในระดับคงที่นับตั้งแต่รัสเซียบุกยูเครน เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
- ที่มา: เอพี