ผลโพลล์จากบริษัทสำรวจความเห็น แกลลัพ (Gallup) ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคาร ระบุว่า ชาวยูเครนส่วนใหญ่ยังคงต้องการสู้รบต่อไป ในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทั่วโลกต่างเคยคาดการณ์ไว้ครั้งหนึ่งว่า ยูเครนจะแพ้ต่อรัสเซียอย่างรวดเร็ว
ชาวยูเครนที่ทำแบบสำรวจ 70% ระบุว่า ยูเครนควรสู้ต่อไปจนกว่าชนะสงครามกับรัสเซีย โดยมีเพียง 26% ที่สนับสนุนการเจรจาเพื่อยุติสงครามโดยเร็วที่สุด
ผลสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 2-11 กันยายนในทุกภูมิภาคทั่วยูเครน รวมถึงแคว้นดอนบาส ขณะที่กองทัพของยูเครนสามารถยึดพื้นที่หลายส่วนคืนจากรัสเซียได้ แต่ยังคงเป็นช่วงก่อนที่รัสเซียจะยิงขีปนาวุธโจมตีตอบโต้ยูเครน
ในช่วงที่มีการจัดทำผลสำรวจ ชาวยูเครนทุกกลุ่มส่วนใหญ่ยังสนับสนุนการสู้รบต่อไปจนกว่าจะชนะ อย่างไรก็ตาม ชาวยูเครนแต่ละกลุ่มยังคงมีระดับการสนับสนุนการทำสงครามที่ต่างกัน เช่น ชายชาวยูเครน 76% สนับสนุนการทำสงครามจนกว่าจะชนะ เมื่อเทียบกับหญิงชาวยูเครน 64% ที่มีความเห็นดังกล่าว
นอกจากนี้ ชาวยูเครนที่อาศัยห่างจากพื้นที่สู้รบยังสนับสนุนสงคราม มากกว่าชาวยูเครนที่อาศัยใกล้กับพื้นที่สู้รบ โดยชาวยูเครนที่สนับสนุนสงครามส่วนมากอาศัยในกรุงเคียฟ (83%) ภาคตะวันตก (82%) ภาคกลาง (78%) และภาคเหนือ (75%) ขณะที่ชาวยูเครนในภาคตะวันออกและภาคใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่สนามรบ สนับสนุนสงครามน้อยกว่า โดยอยู่ที่ 56% และ 58% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ชาวยูเครนถึง 91% ยังเห็นว่า การที่ยูเครนจะชนะสงครามได้นั้น จะต้องยึดดินแดนของยูเครนคืนจากรัสเซีย โดยนับตั้งแต่ที่รัสเซียยึดพื้นที่ของยูเครนเมื่อปีค.ศ. 2014 รวมถึงแคว้นไครเมียด้วย
ผลสำรวจยังระบุด้วยว่า ชาวยูเครน 73% เห็นว่า ยูเครนจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปภายปี 10 ปี และชาวยูเครน 64% เห็นว่า ยูเครนจะเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต้ ภายใน 10 ปี สื่อเดอะ วอชิงตัน โพสต์ ระบุว่า ผลสำรวจดังกล่าว สะท้อนให้เห็นความคาดหวังของชาวยูเครนต่ออนาคตของประเทศในแง่บวกมากขึ้น
เดอะ วอชิงตัน โพสต์ ยังระบุด้วยว่า การเปรียบเทียบความเห็นต่อการสนับสนุนสงครามระหว่างยูเครนและรัสเซียนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากรัสเซียจำกัดเสรีภาพในการแสดงออกอย่างมาก ทำให้การจัดสำรวจความเห็นที่ใช้อ้างอิงได้ในรัสเซียนั้นทำได้ยาก อย่างไรก็ตาม ผลสำรวจบางส่วนระบุว่า ชาวรัสเซียมีแนวโน้มน้อยกว่าที่จะสนับสนุนการสู้รบเพื่อให้ได้ชัยชนะ
ขณะที่แกลลัพสรุปว่า แม้ยูเครนจะยึดพื้นที่บางส่วนคืนมาได้แล้ว แต่สงครามก็ยังไม่มีทีท่าจะจบลง โดยรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธโจมตีหลายเมืองในยูเครน และการโจมตีหลายครั้งได้พุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน ซึ่งจะเป็นความท้าทายของยูเครนขณะเข้าสู่ฤดูหนาวที่จะมีความต้องการใช้ระบบโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานมากขึ้น
- ที่มา: Gallup, The Washington Post