องค์การตำรวจสากลเปิดเผยว่า การตรวจสอบอาหารในช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายนปีก่อน จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างตำรวจ ศุลกากร และหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมโดยตรง ตามร้านค้า ตลาด ท่าอากาศยาน ท่าเรือ และแหล่งอุตสาหกรรมต่างๆ พบอาหารแปลกปลอมมากกว่าหนึ่งหมื่นตัน รวมทั้งอาหารและเครื่องดื่มที่แปลกปลอมและเป็นพิษอีกมากกว่าหนึ่งล้านลิตร
เจ้าหน้าที่พบอาหารแปลกปลอมเหล่านี้ใน 57 ประเทศทั่วโลก ในการตรวจสอบที่ใช้เวลารวม 4 เดือน ตัวอย่างอาหารแปลกปลอมที่พบมีน้ำตาลจากประเทศซูดานที่มีปุ๋ยปนอยู่ และมะกอก 85 ตันจากอิตาลี ที่มีสารคอปเปอร์ซัลเฟตหรือเกลือทองแดง ทาเคลือบภายนอกทำให้ดูน่ารับประทาน รวมอยู่ด้วย
ส่วนเครื่องดื่ม มีเครื่องดื่มแอลกอฮอลหนึ่งหมื่นลิตรที่ผ่านการเจือปนหรือไม่ใช่ของจริงตามฉลาก น้ำผึ้งที่มีการเจือปน
และที่อินโดนีเซีย เจ้าหน้าที่พบไส้ไก่ 70 กิโลกรัมแช่น้ำยาฟอร์มาลีนซึ่งใช้ในการดองศพ และเป็นสารต้องห้ามสำหรับอาหาร
ที่ประเทศเบลเยี่ยม เจ้าหน้าที่ยึดเนื้อลิงหลายกิโลกรัมจากกระเป๋าเดินทาง เนื้อลิงเหล่านั้นปิดฉลากไว้ว่าเป็นเนื้อสำหรับคนบริโภค
ในขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรของฝรั่งเศสจับยึดและทำลายตั๊กแตน 11 กิโลกรัม และบุ้ง 20 กิโลกรัม
องค์การตำรวจสากล (Interpol) กล่าวว่า อาหารที่แปลกปลอมหรือมีการเจือปนเป็นธุรกิจอาชญากรรมมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของผู้บริโภคที่ไม่ตระหนักถึงการปลอมแปลงและการเจือปนอาหารที่รับประทาน
มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งตามประเทศต่างๆ ทั่วโลก และองค์การตำรวจสากลกล่าวว่ายังคงมีการสืบสวนต่อไป เพื่อพยายามจะระบุและขัดขวางเครือข่ายขององค์กรอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลังการค้าสินค้าแปลกปลอมเหล่านี้