รัฐบาลสหรัฐฯ ออกคำแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารที่ทำทุกห้าปี จัดทำโดยกระทรวงเกษตร และกระทรวงสาธารณสุขและการบริการประชาชน ซึ่งมีหลายส่วนเป็นเนื้อหาปรับปรุงใหม่
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทางการแนะนำว่า ผู้บริโภคไม่ควรรับประทานน้ำตาลเกินร้อยละ 10 ของปริมาณแคลอรี่ต่อวัน และพดาน 10% ควรใช้เป็นเกณฑ์สำหรับไขมันอิ่มตัว ที่พบในเนื้อสัตว์ใหญ่ เนย ชีส และไอศกรีม ด้วย
รายงานฉบับนี้ชี้แนะด้วยว่า ปริมาณกาแฟที่เหมาะสมต่อวันอยู่ที่ไม่เกิน 5 แก้ว
และเมื่อเกือบ 40 ปีก่อน ทางการออกคำแนะนำให้ประชาชนเลี่ยงอาหารที่มีคอเรสเตอรอลสูง ไม่ให้เกิน 300 มิลลิกัมต่อวัน คิดเป็นปริมาณไข่ไก่ไม่ถึงสองฟอง รายงานดังกล่าวทำให้ยอดขายไข่ไก่ในอเมริกาได้รับผลกระทบ แต่ครั้งนี้ไม่มีการเตือนเรื่องคอเรสเตอรอล ในลักษณะเดียวกันกับในอดีต
อย่างไรก็ตาม รายงานล่าสุดกล่าวว่าเด็กชายและผู้ใหญ่เพศชายในสหรัฐฯ บริโภคเนื้อสัตว์ ไข่ไก่ และสัตว์ปีกมากเกินไป
แม้จะมีความแตกต่างจากอดีตอยู่บ้าง เจ้าหน้าที่จากกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ข้อแนะนำต่างๆ นี้อิงงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ และยังคงย้ำถึงทิศทางเดิมที่สนับสนุนการลดอาหารที่มีไขมันอิ่มตัวสูง อาหารเค็ม และของหวานที่มีน้ำตาลมาก
ในครั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้กระตุ้นให้ผู้บริโภคทานผัก ผลไม้ และถั่วมากขึ้น แทนการรับประทานโปรตีนจากเนื้อสัตว์ ส่วนหนึ่งมาจากเหตุผลที่ว่า อาหารจากพืชส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์ เพราะการผลิตเนื้อสัตว์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากกว่า
ข้อคิดเรื่องการบริโภคจากรัฐบาลนี้ จะถูกใช้เป็นแนวทางในโครงการอาหารกลางวันของเด็กๆ ตามโรงเรียนหลายสิบล้านคน รวมทั้งความช่วยเหลือด้านอาหารจากรัฐต่อประชาชนอเมริกันทั่วประเทศ
(รายงานโดย ห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)
