ผู้นำท้องถิ่นหลายแห่งในยุโรปเริ่มแสดงอาการหัวเสียกับคำสั่งจำกัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่อัตราการติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นในภูมิภาคนี้
นายกเทศมนตรีกรุงแมดริดของสเปนเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนมีแผนจะยื่นเรื่องฟ้องศาลกรณีที่รัฐบาลกลางกลับลำออกคำสั่งล็อคดาวน์รอบใหม่ ขณะที่ อิซาเบล ดิอาซ อายูโซ ประธานรัฐบาลภาคพื้นแมดริดและปริมณฑล เตือนว่า การออกมาตรการใหม่ออกมานี้จะนำมาซึ่ง “ความย่อยยับของกรุงแมดริดและสเปน” หลังเศรษกิจของประเทศหดตัวไปแล้ว 18.5 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสที่ 2 ของปี
ขณะเดียวกัน นายกเทศมนตรีเมืองมาร์กเซย ของฝรั่งเศส แสดงความไม่พอใจต่อคำสั่งของรัฐบาลของประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครอง ในการปิดภัตตาคารร้านอาหารและบาร์ ในเมืองของเธอ พร้อมแย้งว่า คำสั่งดังกล่าวไม่สมเหตุสมผลแต่อย่างใด โดยผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กในเมืองได้ออกมาสนับสนุนจุดยืนของผู้นำท้องถิ่น ที่ต่อว่ารัฐบาลกลางเนื่องจากสั่งดำเนินมาตรการใหม่โดยไม่ปรึกษาหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และทำให้ธุรกิจทั้งหลายต้องประสบเหตุ “หายนะ” ขณะที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากคำสั่งล็อคดาวน์ในรอบแรก
ส่วนที่อังกฤษ นายกเทศมนตรีเมืองหลายรายในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้มาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ต่างไม่พอใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่บางรายแสดงท่าทีพร้อมที่จะท้าทายคำสั่งของรัฐบาลกลาง ซึ่งห้ามผู้คนจากต่างครอบครัวจับกลุ่มกันเมื่ออยู่ภายในอาคารไม่ว่าจะเป็นผับ หรือภัตตาคารร้านอาหาร โดยอ้างว่า มาตรการนี้จะสร้างความเสียหายต่อการจ้างงานและสุขภาพจิตของคนในพื้นที่
อาการต่อต้านคำสั่งและมาตรการควบคุมการระบาดของรัฐบาลนี้กำลังแพร่กระจายทั่วยุโรป ขณะที่อัตราการติดเชื้อยังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในระดับที่น่าเป็นห่วง แม้แต่ใน อิตาลีและเยอรมนี ที่เคยได้ชื่อว่า ประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการระบาดไว้ได้
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวระบุว่า ทางการท้องถิ่นของอิตาลีมีท่าทีที่พร้อมดำเนินมาตรการที่จำเป็นมากกว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของประเทศอื่นๆ ในยุโรป โดยบางแห่งตัดสินใจออกคำสั่งจำกัดต่างๆ ก่อนที่รัฐบาลกรุงโรมจะสั่งด้วยซ้ำ