อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผชิญหน้าคดีใหม่ในศาล หลังมีผู้กล่าวหาว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ ข่มขืนตนในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งตั้งแต่เมื่อช่วงกลางคริสต์ทศวรรษ 1990
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่ อี จีน แคร์รอลล์ ซึ่งเป็นนักเขียนและอดีตนักเขียนคอลัมน์แนะนำของนิตยสารแอล (Elle) ออกมากล่าวหาทรัมป์ข่มขืนตน โดยยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาทด้วย
ทรัมป์ ออกมาปฏิเสธและยืนยันว่า ไม่เคยข่มขืนแคร์รอลล์ และเรียกคำกล่าวหาของเธอว่า เป็น “เรื่องโกหก” และ “เรื่องหลอกลวงสุด ๆ” ในโพสต์ผ่านแอปพลิเคชั่น Truth Social ของตนตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมของปีที่แล้ว และยังอ้างด้วยว่า โจทก์รายนี้แต่งเรื่องขึ้นมาเพื่อใช้โปรโมทหนังสือบันทึกความทรงจำของตน ทั้งยังประกาศว่า แคร์รอลล์ “ไม่ใช่สเปคของผม!” ด้วย
ทั้งนี้ ทรัมป์ไม่ต้องปรากฏตัวต่อหน้าผู้พิพากษาในคดีนี้ และทีมทนายเปิดเผยว่า อดีตผู้นำสหรัฐฯ อาจไม่มาขึ้นศาล เนื่องจากประเด็นความกังวลด้านความปลอดภัยและการจราจร ขณะที่ ทนายของแคร์รอลล์ระบุว่า ไม่มีแผนจะเรียกทรัมป์ขึ้นเป็นพยานให้การในศาลเช่นกัน
แต่ถ้าทรัมป์ขึ้นให้การ เขาน่าจะเผชิญกับการสืบค้านอันดุเดือด
นับตั้งแต่เรื่องนี้ปะทุขึ้นมาในปี ค.ศ. 2019 ทรัมป์ออกมาโจมตีแคร์รอลล์ในทุกทางมาอย่างต่อเนื่อง และยังอ้างด้วยว่า โจทก์ในคดีนี้มีอาการป่วยทางจิต
รายงานข่าวระบุว่า ลูอิส แคปแลน ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในแมนฮัตตันที่ดูแลคดีนี้ ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนของคณะลูกขุนต่อสาธารณะและทนาย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สนับสนุนทรัมป์ก่อกวนรังควาญบุคคลเหล่านี้
มีการประเมินว่า การไต่สวนคดีนี้น่าจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ หลังการเปิดศาลในวันอังคาร
ในช่วงที่ผ่านมา ทรัมป์ถูกยื่นฟ้องและถูกสอบสวนในหลายต่อหลายคดี โดยอดีตผู้นำปฏิเสธว่า ไม่ได้ทำผิดดังที่ถูกกล่าวหาในทุกคดี
- ที่มา: รอยเตอร์