ทีมนักวิจัยที่มหาวิทยาลัย Iowa ทำการวิเคราะห์ผลการศึกษามากกว่า 50 ชิ้นที่ศึกษาเกี่ยวกับปัญหาการใช้ความรุนแรงในครอบครัวโดยคู่ครองคนปัจจุบันหรืออดีตคู่ครอง
ศาสตราจารย์ Audrey Saftlas ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยา (Epidemiology) เป็นหัวหน้าการศึกษานี้ กล่าวว่าเป็นที่รู้กันอยู่เเล้วว่าการใช้ความรุนแรงโดยคู่รักหรือคู่ครองมีผลกระทบต่อผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์ ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ในกลุ่มที่อายุน้อยกว่าจะได้รับผลกระทบมากกว่าผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีอายุสูงกว่า
ดังนั้นผู้หญิงที่วัยต่ำกว่า 25 ปีและต่ำกว่า 20 ปี จะเป็นกลุ่มผู้หญิงที่ได้รับผลกระทบสูงจากคู่รักใช้ความรุนแรงในครอบครัว
ศาสตราจารย์ Saftlas เน้นผลกระทบที่ตามมาหลายอย่างจากการตกเป็นเหยื่อของการใช้ความรุนแรงของคู่ครองในระหว่างการตั้งครรภ์ ทีมวิจัยพบว่าเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวมีความเสี่ยงที่จะคลอดลูกก่อนกำหนดเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ทารกที่คลอดก่อนอายุครรภ์ครบ 37 สัปดาห์ ถือว่าคลอดก่อนกำหนด และทีมนักวิจัยยังพบด้วยว่าเหยื่อความรุนแรงในครอบครัวยังเสี่ยงที่จะคลอดทารกที่มีน้ำหนักตัวตอนคลอดต่ำหรือต่ำกว่า 2,500 กรัม
และยังพบด้วยว่าจะเพิ่มความเสี่ยงให้คลอดลูกที่ตัวเล็กกว่าอายุครรภ์จริงๆ
ทีมนักวิจัยชี้ว่ารูปแบบของการใช้ความรุนแรงในครอบครัวที่พบบ่อยมากที่สุดได้แก่ การทำร้ายทางกาย ทางเพศ ทางการเงิน ทางจิตใจและทางอารมณ์
ศาสตราจารย์ Saftlas กล่าวว่าทีมงานพบว่าผู้หญิงที่ประสบกับความรุนแรงในครอบครัวหนึ่งถึงสองรูปแบบ มีความเสี่ยงสูงมากขึ้นในการคลอดลูกก่อนกำหนด และทารกมีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์เมื่อเทียบกับหญิงที่ประสบกับความรุนแรงในครอบครัวเพียงรูปแบบเดียว
ยกตัวอย่าง หากผู้หญิงคนหนึ่งเป็นเหยื่อของคู่ครองที่ทำร้ายเธอทั้งทางร่างกายและทางอารมณ์ เธอจะมีความเสี่ยงสูงมากขึ้นกว่าผู้หญิงที่ถูกทำร้ายทางร่างกายเพียงอย่างเดียว
ศาสตราจารย์ Saftlas กล่าวว่าผลการศึกษานี้ไม่มีข้อมูลลงในรายละเอียดถึงความถี่หรือระยะเวลาของการใช้ความรุนแรง แต่ชี้ว่าผลการศึกษานี้เเสดงให้เห็นว่า ผลกระทบจากความรุนแรงในครอบครัวโดยคู่ครองไม่มีความแตกต่างกัน เมื่อเทียบระหว่างประเทศร่ำรวยและประเทศรายได้น้อยหรือปานกลาง
ศาสตราจารย์ Saftlas กล่าวว่าการนำผลการศึกษานี้ไปใช้งานในเชิงปฏิบัติ จำเป็นมากที่บรรดาสูตินรีแพทย์และแพทย์ทั่วไปที่ตรวจร่างกายหญิงระหว่างการตั้งครรภ์ ต้องเข้าใจและสามารถระบุสัญญาณที่ฟ้องว่าเกิดการทำร้ายทางกายและจิตใจเกิดขึ้น และแพทย์เหล่านี้จะต้องมีความรู้และผ่านการฝึกอบรมและสามารถเเนะนำเเหล่งความช่วยเหลือแก่เหยื่อความรุนแรงในครอบครัว
อย่างไรก็ตาม หัวหน้าทีมนักวิจัยกล่าวว่าสัญญาณที่ฟ้องว่าผู้หญิงตั้งครรภ์กำลังตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัวบางอย่างเห็นได้ชัด แต่บางอย่าง ไม่สามารถสังเกตเห็นได้
ศาสตราจารย์ Saftlas กล่าวว่าแพทย์สามารถสังเกตดูร่องรอยทางกายจากการตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว และร่องรอยความรุนแรงทางเพศ ยกตัวอย่างเช่น ผู้หญิงที่มีคู่ครองที่ใช้ความรุนแรง มักจะติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สูงกว่าหญิงทั่วไป
ส่วนอาการอื่นๆ ที่ชี้ว่าผู้หญิงตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของคู่ครอง คือ อาการปวดเรื้อรังตามร่างกายที่ไม่สามารถระบุได้เเน่ชัด ความผิดปกติทางจิตใจและอารมณ์ อาทิ อาการซึมเศร้า
ศาสตราจารย์ Saftlas แห่งมหาวิทยาลัย University of Iowa กล่าวว่า หากระบุได้ว่าผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงในครอบครัว จำเป็นต้องใช้มาตราการเเทรกแซง ซึ่งรวมทั้ง การไปเยี่ยมที่บ้าน โครงการให้คำปรึกษาและโครงการสนับสนุนอื่นๆ
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน )