สัตว์เลี้ยงถือเป็นเพื่อนคู่ใจของหลายคนในช่วงที่ผู้คนทำงานอยู่ที่บ้านช่วงโควิดระบาดหนัก แต่หลายองค์กรดึงพนักงานกลับมาที่ทำงานกันมากขึ้น พร้อมกับพาสัตว์เลี้ยงมาทำงานด้วย
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสในสหรัฐฯ ผู้คนหลายล้านคนรับเลี้ยงสุนัขเพื่อความสบายใจและให้คอยเป็นเพื่อน และในช่วงเวลาดังกล่าวคนเหล่านั้นมีเวลาดูแลสุนัขอยู่ที่บ้านเพราะไม่ต้องออกไปทำงาน
แต่การที่หลาย ๆ บริษัทเริ่มทำงานแบบผสมผสาน โดยอนุญาตให้พนักงานทำงานได้ทั้งที่บ้านและในสำนักงาน ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงจำนวนมากต้องการให้สุนัขของตนคอยเป็นเพื่อนอยู่ใกล้ ๆ โดยการพาพวกมันไปทำงานด้วย
สตีฟ ไวน์รอค หัวหน้าสัตวแพทย์ของทรูแพเนียน ซึ่งเป็นผู้ให้บริการประกันสัตว์เลี้ยงในนครซีแอตเทิลกล่าวว่า “สัตว์เลี้ยงกลายเป็นสมาชิกในครอบครัวของเราไปแล้ว ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลที่จะพาพวกมันไปทำงานด้วย”
ส่วนไดอานา ครอส ผู้จัดการของทรูแพเนียนกล่าวว่า การพาสุนัขไปที่ทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเธอชอบให้สุนัขของเธอทั้งสองตัวอยู่ใกล้ ๆ
ทรูแพเนียนก็เหมือนกับบริษัทอื่น ๆ บางบริษัทที่อนุญาตให้สุนัขที่ได้รับการฝึกอย่างดีมาที่ทำงานกับเจ้าของได้ในระหว่างวันทำงาน ซึ่งจริง ๆ แล้วทรูแพเนียนให้พนักงานพาสุนัขมาที่ทำงานได้ตั้งแต่ก่อนเกิดโรคระบาดแล้ว
บริดเจอร์ แม็คกอว์ ผู้บริหารระดับสูงฝ่ายความปลอดภัยและบริการของเอ็ธนาเฮลท์ ซึ่งเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ด้านเวชระเบียนอิเล็กทรอนิกส์ที่อยู่ใกล้ ๆ กับนครบอสตัน บอกกับวีโอเอว่า "เมื่อเรากลับเข้าสู่โหมดการทำงานในออฟฟิศ สุนัขเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนสามารถปรับตัวได้"
นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงยังมีประโยชน์ต่อบริษัท เพราะพวกมันช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดี และทำผู้คนมีส่วนร่วมในการประชุมมากขึ้นเมื่อมีสัตว์เลี้ยงอยู่ที่นั่น
เอมี่ นอยไมส์เตอร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายบริการของแอมะซอน ผู้ค้าปลีกออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลกให้ข้อมูลว่า แอมะซอนเริ่มโครงการ Dogs at Work เมื่อ 25 ปีที่แล้วที่สำนักงานใหญ่ในนครซีแอตเทิล ปัจจุบันมีสุนัขประมาณ 10,000 ตัวที่จดทะเบียนให้เข้าถึงอาคารกว่า 140 แห่งของแอมะซอน
เธอบอกกับวีโอเอว่าการพาสุนัขไปที่ทำงานสามารถช่วยในเรื่อง "ขวัญและกำลังใจในการทำงาน และยังช่วยในเรื่องของอารมณ์" และพวกมันยังนำความสุขมาสู่เพื่อนร่วมงานที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ได้อีกด้วย
ไวน์รอคแห่งทรูแพเนียนกล่าวว่า "สุนัขทำให้ใบหน้าของผู้คนเปื้อนรอยยิ้มเมื่อพวกเขาเห็นมันกลิ้งไปกลิ้งมาหรือไล่กัดหางของตัวเอง"
แมคกอว์จากเอ็ธนาเฮลท์กล่าวว่า ในระหว่างการประชุม ผู้คนจะแวะเข้ามาดูสุนัขและมากอดคลอเคลีย ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญในที่ทำงาน นอกจากนี้ทางบริษัทยังจัดให้มี “Yappy Hours” ซึ่งเป็นชั่วโมงแห่งความสุขสำหรับพนักงานและสัตว์เลี้ยง ซึ่งรวมถึงการให้ขนมเป็นรางวัลแก่สุนัขแสนรักอีกด้วย
นอกจากที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การมีสุนัขอยู่ในออฟฟิศยังอาจช่วยละลายพฤติกรรมของพนักงานได้
โลแกน คันนิงแฮม นักวิเคราะห์การเงินอาวุโสแห่งสำนักงานใหญ่แห่งที่สองของแอมะซอนในเมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนียกล่าวว่า การที่ได้พาสุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ตาสีเขียวของเขาที่ชื่อพิสทาชิโอ มาทำงานด้วยนั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก “ในฐานะพนักงานใหม่ พิสทาชิโอช่วยให้เขาได้รู้จักกับผู้คนมากมาย เนื่องจากสุนัขมักเป็นตัวเริ่มต้นบทสนทนาที่ดี
นอกจากนี้การศึกษายังพบว่าสัตว์เลี้ยงช่วยทำสุขภาพกายและใจของผู้คนดีขึ้น โดยพวกมันช่วยลดความเหงา คลายความวิตกกังวล และช่วยลดความดันโลหิตอีกด้วย
การศึกษาโดยมหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย คอมมอนเวลธ์พบว่าพนักงานที่พาสุนัขมาทำงานด้วยมีความเครียดน้อยลงในระหว่างวันทำงาน และมีระดับความพึงพอใจในการทำงานที่สูงขึ้น
อีกทั้งในการสำรวจโดยบริษัทบริการด้านสัตว์เลี้ยง Rover.com พบว่า 75% ของเจ้าของสุนัขที่สามารถนำสัตว์เลี้ยงมาทำงานด้วย มีแนวโน้มอยากทำงานในบริษัทต่อไปจากนโยบายดังกล่าว
- ที่มา: วีโอเอ