ผู้ติดตามวงการบันเทิงทั่วโลกอาจจะสงสัยว่าความตื่นตัวของคนดูการจัดงานประกาศรางวัลออสการ์ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 25 เมษายนนี้จะเป็นเช่นใด เพราะตลอดกว่าหนึ่งปีที่ผ่านมาวงการฮอลลีวู้ดอยู่ในภาวะซบเซาอย่างหนัก เนื่องจากมารตรการล็อคดาวน์ที่ออกมารับมือกับโคโรนาไวรัส
เมื่อย้อนกลับไปดูสถิติผู้ชมการถ่ายทอดการประกาศรางวัลออสการ์ที่สหรัฐฯ ในช่วงราว 100 ปีที่ผ่านมา จะพบว่า จำนวนคนดูจะอยู่ที่ประมาณ 35 ล้าน ถึง 45 ล้านคน จะเป็นรองก็เเต่การถ่ายทอดสดศึกชิงเเชมป์อเมริกันฟุตบอล Super Bowl เท่านั้น
แต่เมื่อปีที่เเล้ว ก่อนการประกาศว่าโคโรนาไวรัสเป็นการระบาดใหญ่ระดับโลก ยอดผู้ชมทางโทรทัศน์ของคืนประกาศผลออสการ์ ผ่านช่อง ABC ของสหรัฐฯ ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คือลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 23 ล้าน 6 แสนคนถือว่าเป็นสถิติตำ่สุด
และหากพิจารณาถึงงานประกาศรางวัลของคนวงการบันเทิง ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโควิด-19 จะพบว่ายอดผู้ชมลดลงอย่างฮวบฮาบ
ผู้ชมทางโทรทัศน์ของการประกาศรางวัลลูกโลกทองคำ ปีนี้ลดลง 64 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียง 6 ล้าน 9 แสนคน เทียบกับ 18 ล้าน 4 แสนคนปีที่เเล้ว ตามข้อมูลของบริษัทเนลสัน
ส่วนงานประกาศรางวัลเเกรมมี่ แห่งวงการเพลง เมื่อเดือนที่เเล้ว มีผู้ชม 9 ล้าน 2 แสนคน ผ่านโทรทัศน์และระบบสตรีมมิ่งทางอินเตอร์เน็ต ถือเป็นสถิติต่ำสุดและลดลง กว่า 50 เปอร์ซ็นต์จากปีก่อน
สำหรับผู้ที่ติดตามออสการ์อย่างใกล้ชิดมานาน หลายคนมองว่าเขาไม่สนใจการประกาศรางวัลปีนี้
สำนักข่าว Associated Press หรือเอพี สัมภาษณ์จอห์น เบนนาร์โด วัย 52 ปีจากเมืองโบคา ราตัน รัฐฟลอริดา ซึ่งเป็นทั้งนักเขียนบทและมีบริษัทถ่ายทำงานวิดีโอโฆษณา เขากล่าวว่า จากที่เคยตื่นเต้นกับออสการ์มาก และเคยฝันที่จะขึ้นเวทีออสการ์สักครั้งในชีวิต ในปีนี้เขารู้สึกว่าความตื่นเต้นนั้นหายไป
ที่สำคัญ ในปีนี้เขาไม่ได้ดูภาพยนตที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเเม้เเต่เรื่องเดียว
และการที่การถ่ายทอดปีนี้ถูกเลื่อนออกไปเป็นวันที่ 25 เมษายนจากปกติที่อยู่ปลายเดือนกุมภาพันธ์หรือต้นมีนาคม ก็ถือเป็นความล่าช้าครั้งที่สามในประวัติศาสตร์ออสการ์
อีกประการหนึ่งที่ทำให้หลายคนรู้สึกไม่ตื่นเต้นกับออสการ์ปีนี้คือ การที่ ภาพยนตร์บางเรื่องถูกสตรีมผ่านเเพลตฟอร์มต่างๆ เป็นเรื่องที่คอหนังต้องออกเเรงเป็นพิเศษในการติดตามว่าภาพยนตร์จะถูกเสนอผ่านช่องทางใด เมื่อใด และสามารถดูแบบออนดีมานด์ได้หรือไม่
พริสซิลลา วิซินไทน์ วัย 62 ปีจากเมืองเซนต์หลุย รัฐมิสซูรี ที่เคยไปงานปาร์ตี้เพื่อร่วมดูการถ่ายทอดออสการ์กับเพื่อนๆ ทุกปีกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาโรงหนังต้องหยุดฉายภาพยนตร์ และการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เธอหมดความสนใจต่อวงการหนัง
แต่ยังพบว่ายังมีคนอเมริกันที่ยังไม่หมดไฟ กับการรอชมออสการ์ปีนี้ หนึ่งในนั้นคือ เจนนิเฟอร์ ไรส์ แห่งเมืองน็อกซ์วิลล์ รัฐเทนเนสซี
สตรีวัย 50 ปีผู้นี้กล่าวว่า การดูหนังเเละการติดตามการถ่ายทอดรางวัลออสการ์ยังคงเป็นกิจกรรมที่สร้างความผูกพันระหว่างเธอเเละลูกชายวัย 22 ปีที่ชื่อจอร์เเดน
หากพิจารณาถึง อดีตที่มีคนรอชมงานออสการ์จำนวนมาก เพราะชอบเเสงสีและความหรูหราฟู่ฟ่าแห่งวงการบังเทิง ซึ่งเคยช่วยพาให้ผู้ชมทางบ้าน ดื่มด่ำกับโลกมายา บรรยากาศในปีนี้ที่ตัวดาราเองต้องออกหน้าจอผ่านระบบวิดีโออนไลน์เช่นกัน ไม่ได้ช่วยให้คนดูหลุดออกจากชีวิตที่ไม่ง่ายของพวกเขาในยุคโควิดระบาด
ผู้เสพผลงานบันเทิงบางราย เช่น ปิเเอร์ ซุเบห์ จากเมืองออร์เเลนโด รัฐฟลอริดา วัย 22 ปีกล่าวว่า เขาเลิกดูออสการ์ตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน เพราะเห็นว่ารายการยาวเกินไปเเละมีโฆษณาคั่นบ่อยครั้ง แถมมุขตลกบนเวที ก็ยังไม่ค่อยทันสมัยในสายตาเขา
ปิเเอร์ ซุเบห์ ซึ่งเป็นนักสร้างภาพยนตร์เลือดใหม่ไฟแรง ยังเป็นชาวมุสลิมเชื้อสายตะวันออกกลาง ซึ่งเขาเห็นว่า ออสการ์ยังขาดการสะท้อนเรื่องราวของวัฒนธรรมของเขาอย่างเพียงพออีกด้วย