ชัยชนะอย่างไม่คาดฝันของนายโดนัลด์ ทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากความสนับสนุนที่ได้จากฐานคะแนนดั้งเดิมของพรรคเดโมแครต ในรัฐที่สำคัญสามรัฐ คือเพนซิลวาเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน ซึ่งมาจากจากแนวทางการหาเสียงซึ่งมุ่งเน้นการสร้างงานด้วยภาษาที่เรียบง่ายและเป็นที่เข้าใจได้ดีของนายโดนัลด์ ทรัมป์
ทำให้พรรคเดโมแครตต้องกลับมาสำรวจตัวเอง ว่าทำอย่างไรจึงจะสามารถกลับไปเชื่อมต่อกับฐานคะแนนดั้งเดิมของตน เพื่อให้คนเหล่านี้รับทราบแนวคิดและวิสัยทัศน์ที่พรรคมีอยู่ได้อีกครั้ง?
ปัญหาการขาดผู้นำระดับชาติหลังจากที่ประธานาธิบดีโอบาม่าพ้นตำแหน่งไปแล้ว และจากการที่นางฮิลลารี คลินตัน แพ้การเลือกตั้ง รวมทั้งเรื่องทิศทางในอนาคตว่าจะเดินตามแนวทางของสมาชิกหัวก้าวหน้า เช่น วุฒิสมาชิกเอลิซาเบท วอร์เรน หรือวุฒิสมาชิกเบอร์นี่ แซนเดอร์ หรือตามแนวทางแบบสายกลาง ซึ่งก็ยังไม่มีผู้นำที่โดดเด่นให้เห็นได้ ล้วนเป็นคำถามสำคัญที่รอคำตอบอยู่
นอกจากนั้น พรรคเดโมแครตยังจะต้องตัดสินใจเรื่องการทำหน้าที่พรรคฝ่ายค้านภายใต้ภายใต้รัฐบาลใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ ว่าจะคัดค้านในทุกเรื่อง หรือจะสนับสนุนในบางเรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เช่น การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ
อย่างไรก็ตาม นายจอห์น ฟอเทียร์ นักวิเคราะห์ของสถาบัน Policy Center ชี้ว่า ข้อได้เปรียบอย่างหนึ่งของพรรคเดโมแครต คือการที่กลุ่มประชากรซึ่งไม่ใช่คนผิวขาวและเป็นฐานคะแนนสำคัญของพรรคเดโมแครตมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นในอนาคต
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่สำคัญในระยะสั้นของพรรคในขณะนี้ ดูเหมือนจะอยู่ที่การเลือกตั้งกลางเทอมในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งวุฒิสมาชิกของพรรคเดโมแครตหลายคนจะต้องลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่
และรัฐส่วนใหญ่เหล่านี้ล้วนแต่เป็นรัฐที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีมาแล้วทั้งสิ้น