สำนักงานสมุทรศาสตร์และชั้นบรรยากาศโลกแห่งสหรัฐฯ หรือ NOAA เปิดเผยว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่เกิดขึ้นในหลายท้องทะเลในนานระยะหนึ่งซึ่งทำให้ปะการังเปลี่ยนเป็นสีขาว อ่อนแอลงและแตกหัก ได้ยุติลงแล้วในท้องทะเลลึกทั้งสามจุด
มาร์ค เอคิน นักวิทยาศาสตร์ด้านการวิจัยแห่งสำนักงาน NOAA และผู้ประสานงานโครงการปะการัง กล่าวว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา จากระดับอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น มีผลกระทบอย่างกว้างขวาง
เขากล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า มีเกาะหลายแห่งในตอนกลางของมหาสมุทรแปซิฟิกที่แนวปะการังทั้งหมดเกิดการฟอกขาว ซึ่งทำให้ฝูงปลาลดจำนวนลด มีผลกระทบต่อประชาชนที่พึ่งปลาเป็นแหล่งอาหารและเพื่อธุรกิจ
เขากล่าวว่า ในหลายๆ จุด ปรากฏการณ์ฟอกขาวของปะการังเริ่มทำให้ปะการังตายลงและแยกออกจากกัน แนวปะการังเหล่านี้นอกจากจะช่วยป้องกันการกัดเซาะของแนวชายฝั่งแล้ว ยังเป็นแหล่งรายได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอีกด้วย เพราะมีนักท่องเที่ยวไปดำน้ำดูปลาและแนวปะการังที่สวยงาม
เอคิน กล่าวว่า คนต้องพึ่งแนวปะการังเพื่อการหาเลี้ยงครอบครัวเพราะปะการังมีความสวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว และเมื่อปะการังเกิดการฟอกขาว นักท่องเที่ยวก็ไม่เดินทางไปชมแนวปะการังที่ตายแล้ว
ปะการังฟอกขาวได้กลายเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเพราะอุณหภูมิของน้ำทะเลอุ่นขึ้นทั่วโลกอันเป็นผลสืบเนื่องจากภาวะโลกร้อน
ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวที่เลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในปลายปี ค.ศ. 2014 ตั้งแต่นั้นมา มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของแนวปะการังต่างๆ ทั่วโลกได้ประสบกับภาวะน้ำทะเลอุ่นขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นักวิทยาศาสตร์สังเกตุพบว่า ปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวทั่วโลกครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1998 ในช่วงที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีลโญ่ที่รุนแรง ซึ่งทำให้น้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกในเขตร้อนอุ่นขึ้นกว่าปกติ และมักส่งผลให้ระบบสภาพภูมิอากาศโลกแปรปรวนผกผันตามมา และปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งล่าสุดก็เกิดขึ้นพร้อมกันกับที่เกิดปรากฏการณ์เอลนีลโญ่ที่รุนแรงเช่นกัน
เจนนิเฟอร์ คอส ผู้อำนวยการแห่งโครงการอนุรักษ์แนวปะการังของสำนักงาน NOAA กล่าวว่า แนวปะการังยังสามารถกอบกู้ได้ บรรดานักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานเพื่อปกป้องแนวปะการังด้วยการระบุสายพันธุ์ของปะการังที่มีความทนทานต่อน้ำทะเลที่อุ่นขึ้น และทนต่อความเป็นกรดของน้ำทะเล
รายงานของสำนักงาน NOAA ชี้ว่า จุดต่างๆ ในสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากแนวปะการังฟอกขาวรุนแรง ได้แก่ รัฐฟลอริด้า ฮาวาย กวมและหมู่เกาะมาเรียน่า
เอคิน นักวิทยาศาสตร์แห่งสำนักงาน NOAA กล่าวว่า พบการฟอกขาวของปะการังตลอดแนวชายฝั่งของทวีปแอฟริกาโดยรอบตลอดแนวไปจนถึงชายฝั่งทางตะวันตกของทวีป
ในขณะนี้ การฟอกขาวของปะการังได้ชะลอตัวลงและได้ยุติลงในเกือบทุกจุด แต่ผู้เชี่ยวชาญแห่ง NOAA กล่าวว่า อาจจะเกิดการฟอกขาวขึ้นอีกในปลายปีนี้ในทางตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกและในทะเลแคริบเบียน แต่จะไม่กินวงกว้างอย่างที่เคยเกิดขึ้น
ในระยะยาว บรรดานักวิทยาศาสตร์จะต้องคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าแนวปะการังเริ่มแข็งแรงขึ้นหรือไม่ หากแนวปะการังไม่กลับเข้าสู่สภาพปกติ ก็จะเกิดปัญหากับมหาสมุทรแห่งต่างๆ และผู้คนที่ต้องพึ่งพาแนวปะการังเพื่อความอยู่รอดอย่างแน่นอน
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)