บริษัทเจ้าของเครือข่ายท่อส่งน้ำมันในสหรัฐฯ ที่ถูกโจมตีด้วย Ramsomware น่าจะจ่ายเงินค่าไถ่ให้กับแฮกเกอร์ 4-5 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะประกาศว่า สามารถกลับมาเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันได้อีกครั้งเมื่อเย็นวันพุธ ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
รายงานข่าวที่อ้างข้อมูลจากบุคคลที่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์นี้ระบุว่า บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ (Colonial Pipeline) เจ้าของเครือข่ายท่อขนส่งน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ที่ตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ ทำการจ่ายค่าไถ่เป็นจำนวนเงินเกือบ 5 ล้านดอลลาร์ตั้งแต่วันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งขัดแย้งกับคำประกาศของบริษัทที่มีออกมาเมื่อต้นสัปดาห์ว่า ผู้บริหารไม่มีความตั้งใจที่จะยอมจ่ายเงินเพื่อกู้ระบบท่อส่งน้ำมันของตนกลับมา
บลูมเบิร์ก รายงานด้วยว่า บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ จ่ายค่าไถ่ก้อนนี้ในรูปของสกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) ที่ติดตามร่องรอยได้ยาก ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกโจมตี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงแรงกดดันที่บริษัทแห่งนี้ต้องเผชิญเมื่อเกิดปัญหาไม่สามารถส่งน้ำมันไปยังเมืองสำคัญๆ ตลอดแนวชายฝั่งภาคตะวันออกของประเทศได้
และหลังจากการส่งมอบเงินค่าไถ่เสร็จสิ้นลง กลุ่มแฮกเกอร์ซึ่งสำนักงานสืบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI ระบุว่าเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ ดาร์กไซด์ (DarkSide) ในรัสเซีย ส่งเครื่องมือถอดรหัสเพื่อกู้ระบบคืนให้
ทั้งนี้ บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ขนส่งน้ำมันและเชื้อเพลิงต่าง ๆ ราว 2.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากโรงกลั่นในแถบอ่าวเม็กซิโกไปยังรัฐต่าง ๆ ทางภาคตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ผ่านเครือข่ายท่อขนส่งน้ำมันความยาว 8,850 กม. โดยปริมาณน้ำมันราวครึ่งหนึ่งในแถบภาคตะวันออกของสหรัฐฯ ถูกขนส่งผ่านเครือข่ายของบริษัทนี้
และเมื่อบลูมเบิร์กสอบถามประเด็นดังกล่าวไปยังบริษัทเจ้าของเครือข่ายท่อส่งน้ำมันแห่งนี้ ตัวแทนของบริษัทปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เช่นเดียวกับ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ขอไม่ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้
ขณะเดียวกัน แม้จะเริ่มเปิดใช้ท่อส่งน้ำมันได้แล้ว บริษัทโคโลเนียล ไปป์ไลน์ ยอมรับว่า “คงต้องใช้เวลาอีกหลายวันกว่าที่การนำส่งน้ำมันไปตามห่วงโซ่อุปทานจะกลับคืนสู่สภาพปกติได้” พร้อมเตือนว่า ตลาดบางแห่งที่เป็นลูกค้าของตนอาจจะต้องเผชิญปัญหาการรับน้ำมันเป็นช่วงๆ อีกระยะหนึ่งด้วย
และแม้หลังมีรายงานข่าวว่า เหตุการณ์โจมตีทางไซเบอร์ครั้งนี้ได้รับการแก้ไขไปแล้ว ประชาชนผู้ใช้รถจำนวนมายังคงแห่งออกไปหาซื้อน้ำมันมากักตุนไว้ จนทำให้หน่วยงานรัฐบาลและตัวแทนอุตสาหกรรมต่างๆ ต้องออกมาร้องขอให้ทุกฝ่ายอยู่ในความสงบได้แล้ว
พีท บุดดิเจ็จ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ บอกกับผู้สื่อข่าวทำเนียบขาวในวันพุธว่า รัฐบาลเข้าใจดีถึงความกังวลของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีปัญหาการจัดส่งน้ำมัน แต่การกักตุนนั้นไม่ได้จะช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นแม้แต่น้อย