ทีมนักวิทยาศาสตร์ประมาณว่า โลกน่าจะมีอุณหภูมิที่อุ่นขึ้นกว่าช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรมเเล้วราว 1 องศาเซลเซียส เเละนักวิทยาศาสตร์ชี้ว่ากิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ อาทิ การเผาผลาญเชื้อเพลิงจากซากพืชซากสัตว์เป็นสาเหตุของปัญหานี้
ทีมนักวิจัยได้ศึกษาผลกระทบของอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้น 2 องศาเซลเซียส ต่อความเเห้งเเล้งของพื้นที่ในส่วนต่างๆ ทั่วโลก โดยวัดดูความแห้งของดินบนผิวหน้า
มาโนช โจชิ (MANOJ JOSHI) นักวิจัยเเห่งมหาวิทยาลัย อีส เเองเกลีย กล่าวว่า ทีมงานพบว่าพื้นที่หลายส่วนที่เปลี่ยนแปลงอย่างมาก เมื่อเทียบความเเตกต่างปีต่อปี ได้เเก่ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน ตอนกลางของทวีปอเมริกาเหนือ หลายจุดทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เเละที่เมดิเตอร์เรเนียน
ข้อตกลงปารีสว่าด้วยภาวะโลกร้อนที่ลงนามในปี ค.ศ. 2015 หรือ 2 ปีที่แล้ว ตั้งเป้าควบคุมภาวะโลกร้อนให้อยู่สูงขึ้นเพียงเเค่ 2 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับอุณหภูมิโลกในช่วงก่อนยุคอุตสาหกรรม
โจชิ นักวิจัยกล่าวว่า การควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสมีความจำเป็น เขากล่าวว่าทีมนักวิจัยพบว่าในพื้นที่ส่วนต่างๆ ของโลกทั้งหกจุดที่ศึกษานี้ เราจะสามารถควบคุมระดับความเเห้งของดินลงได้ หากเราสามารถควบคุมไม่ให้อุณหภูมิของโลกอุ่นขึ้นเกิน 2 องศาเซลเซียสทั่วโลก
โจชิ กล่าวว่า สภาพภูมิอากาศโลกโดยเฉลี่ยในอนาคตจะเหมือนกับภาวะอากาศที่เเห้งกว่าในปัจจุบัน เหมือนกับการเกิดภาวะเเห้งเเล้งระดับปานกลางที่เกิดขึ้นตลอดทั้่งปีไม่หยุดหย่อน ความเเห้งของพื้นดินจึงมีความสำคัญมากเพราะจะส่งผลให้เกิดผลกระทบต่อการเกษตร ผลกระทบเเบบโดมิโนของภาวะฝนเเล้ง ที่นำไปสู่การเกิดไฟป่าตามมา เป็นต้น
รัฐเเคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เพิ่งประสบกับวิกฤติไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐนี้ โดยไฟป่าลุกลามกินพื้นที่มากกว่า 5 พัน 5 ร้อยตารางกิโลเมตรในปลายปีที่เพิ่งผ่านพ้นไป เเละมีคนเสียชีวิตเกือบ 50 คน
โจชิ นักวิจัยเเห่งมหาวิทยาลัย อีส เเองเกลีย ในอังกฤษ กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะเป็นสาเหตุให้มีความเสี่ยงสูงขึ้นต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ อาทิ ไฟป่าเเละพื้นที่ที่มีความเเห้งเเล้งในส่วนต่างๆ ของโลกจะเจอกับไฟป่ามากกว่าจุดอื่น
ทีมนักวิจัยทีมนี้เตือนว่า ภาคการเกษตร ความหลากหลายทางนิเวศวิทยา เเละคุณภาพของน้ำล้วนจะได้รับผลกระทบเมื่อพื้นที่ดินที่กว้างใหญ่มีความเเห้งเเล้งมากขึ้นกว่าเดิม
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)