ทางการจีนได้ออกมาประณามแถลงการณ์ร่วมของผู้นำประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก 7 ประเทศ หรือ จี-7 (G-7) ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์ประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของจีน
เมื่อวันอาทิตย์ ที่ประชุมสุดยอดของผู้นำกลุ่มจี-7 ที่เขตปกครองตนเองคอร์นวอลล์ อังกฤษ มีแถลงการณ์ปิดการประชุม เรียกร้องให้จีนเคารพในสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับเขตปกครองตนเองซินเจียง และสิทธิเสรีภาพของชาวฮ่องกงภายใต้ปฏิญญาจีน-อังกฤษ ที่ทำไว้เมื่อปี ค.ศ.1997 เมื่อคราวที่อังกฤษส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนให้แก่จีนแผ่นดินใหญ่
ที่ผ่านมา จีนถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวมุสลิมอุยกูร์ในมณฑลซินเจียง รวมถึงกักขังชาวอุยกูร์มากกว่า 1 ล้านคนในค่ายกักกันหรือค่ายปรับทัศนคติ ตลอดจนการติดตามสอดส่งของรัฐบาลจีนและการบังคับคุมกำเนิดชาวมุสลิมซึ่งเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศจีน
นอกจากนี้ กลุ่มจี-7 ยังร่วมเรียกร้องให้มีการสอบสวนต้นกำเนิดของโควิด-19 รอบใหม่ อย่างโปร่งใสและอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในรายงานของผู้เชี่ยวชาญชุดแรกที่เดินทางเข้าไปตรวจสอบต้นตอของโคโรนาไวรัสที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เมื่อต้นปีนี้
อย่างไรก็ตาม สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงลอนดอน มีแถลงการณ์ในวันจันทร์ กล่าวหาบรรดาผู้นำกลุ่มจี-7 ว่าแทรกแซงกิจการภายในของจีน ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการจีนได้ประกาศว่าจะตอบโต้ต่อความอยุติธรรมและการล่วงละเมิดทุกอย่างที่มุ่งเป้ามาที่จีน