จีนส่งคนงานและช่างเทคนิคกว่า 300 คนไปที่รัฐยะไข่ทางภาคตะวันตกของเมียนมา เพื่อเข้าร่วมโครงการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่เขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิว (Kyaukphyu Special Economic Zone) ท่ามกลางการต่อสู้อย่างดุเดือดระหว่างทหารของกองทัพเมียนมากับกองกำลังชาติพันธุ์
แหล่งข่าวชาวบ้านที่เมืองเจ้าผิวบอกกับสำนักข่าวเรดิโอ ฟรี เอเชีย หรือ RFA (Radio Free Asia) ภาคภาษาพม่าว่า เรือจีนเทียบท่าที่เกาะมาเดย์เมื่อวันที่ 28 เมษายน พร้อมกับคนงาน เสบียงและเครื่องจักรขนาดใหญ่ หลังจากได้รับอนุญาตจากรัฐบาลทหารให้ก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกที่นั่นได้
ท่าเรือน้ำลึกที่เมืองเจ้าผิว คือโครงการขนาดใหญ่ที่มีจีนเป็นผู้ลงทุนใหญ่ซึ่งผ่านการอนุมัติของรัฐบาลทหารเมียนมาเมื่อปี 2023 แต่การก่อสร้างประสบปัญหาขาดแคลนคนงานเนื่องจากชาวบ้านต่างไม่เชื่อใจรัฐบาลทหารภายใต้ความวุ่นวายทางการเมือง และการต่อสู้ระหว่างกองทัพเมียนมากับกองกำลังอาระกัน หรือ AA (Arakan Army)
จีนและเมียนมาลงนามในข้อตกลงก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกและเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวเมื่อเดือน พ.ย. ปี 2020 ภายใต้รัฐบาลพลเรือนที่นำโดยออง ซาน ซู จี ก่อนที่จะถูกรัฐบาลทหารโค่นอำนาจในอีกไม่กี่เดือนต่อมา โดยจีนเป็นผู้ลงทุน 70% และเมียนมา 30%ในโครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีท่าเทียบเรือสินค้าทั้งหมด 10 จุด
อย่างไรก็ตาม เมืองเจ้าผิวกลายเป็นแนวหน้าของการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับกองกำลังอาระกันในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ โดยอาระกันอาร์มีสามารถยึดครอง 8 เมืองจาก 17 เมืองในรัฐยะไข่ไว้ได้แล้วในขณะนี้
แหล่งข่าวบอกกับ RFA ว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว อาระกันอาร์มีสามารถยึดป้อมค่ายใหญ่และจับกุมทหารของกองทัพเมียนมาได้หลายร้อยคนที่เมืองมาวโดว์ในรัฐยะไข่ รวมทั้งด่านทหารอีกสองแห่งในหุบเขาใกล้พรมแดนเมียนมา-บังกลาเทศ และขณะนี้ กองกำลังอาระกันสามารถควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษเจ้าผิวไว้ได้แล้ว ซึ่งอาจทำให้กองกำลังชาติพันธุ์กลุ่มนี้มีสิทธิตัดสินใจการทำงานของจีนที่ท่าเรือน้ำลึกด้วย
แซคคารี อาบูซา นักวิเคราะห์แห่ง National War College ในกรุงวอชิงตัน ชี้ว่า แม้ทั้งรัฐบาลทหารและกองกำลังอาระกันต่างให้การรับรองกับรัฐบาลจีนว่า ความขัดแย้งครั้งนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลประโยชน์ของจีนในเมียนมา แต่การที่จีนส่งคนงานกว่า 300 คนไปที่ท่าเรือน้ำลึกก็ถือเป็นการ "ทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย" เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงพยายามแย่งชิงการครอบครองพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษนี้
"เวลานี้ กองกำลังอาระกันคือผู้ครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ทางภาคเหนือของรัฐยะไข่ และคาดว่าจะเดินหน้าโครงการเจ้าผิวไม่ช้าก็เร็ว" นักวิเคราะห์ผู้นี้ระบุ
ที่ผ่านมา จีนพยายามแสดงตัวเป็นผู้สร้างเสถียรภาพในรัฐยะไข่ ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นเพราะจีนมีผลประโยชน์ขนาดใหญ่อยู่ในรัฐนี้ ซึ่งนอกจากเขตเศรษฐกิจพิเศษและท่าเรือน้ำลึกแล้ว ยังรวมถึงท่อขนส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัฐยะไข่ไปมณฑลยูนนาน
และในขณะที่รัฐบาลทหารซึ่งกำลังสูญเสียดินแดนในการครอบครอง พยายามขอให้จีนเข้ามาเป็นผู้ไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง แต่ก็ยังคงไม่ชัดเจนว่า รัฐบาลกรุงปักกิ่งจะมีอิทธิพลมากพอที่จะจูงใจให้กองกำลังอาระกันยุติการแข็งข้อต่อต้านในครั้งนี้ได้หรือไม่
- ที่มา: เรดิโอ ฟรี เอเชีย (Radio Free Asia) ภาคภาษาพม่า
กระดานความเห็น