หนี้ภาคครัวเรือน เศรษฐกิจที่ชะลอตัว ค่าเงินหยวนอ่อนตัว และสงครามการค้ากับสหรัฐฯ คืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ความพยายามของรัฐบาลจีนที่จะกระตุ้นปริมาณการนำเข้าสินค้า อาจทำไม่ได้ตามเป้า
คาดว่านโยบายล่าสุดของจีนมีเป้าหมายส่วนหนึ่งเพื่อลดเสียงวิจารณ์จากประเทศต่างๆ เรื่องการได้เปรียบดุลการค้าของจีน และการทำการค้าอย่างไม่เป็นธรรม
ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง กล่าวในพิธีเปิดนิทรรศการสินค้านำเข้า หรือ Import Expo ครั้งแรกที่นครเซี่ยงไฮ้ในวันจันทร์ที่ผ่านมา รับปากว่าจะกระตุ้นการนำเข้าสินค้าและการบริโภคในประเทศ โดยเฉพาะสินค้าคุณภาพสูงและราคาแพงกว่าสินค้าที่ผลิตในประเทศ
รัฐบาลปักกิ่งตั้งเป้าว่าจะนำเข้าวินค้าและบริการเป็นมูลค่ารวม 40 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วง 15 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นปีละเกือบ 2 ล้านล้าน 7 แสนล้านดอลลาร์ เพิ่มจากระดับ 2 ล้านล้าน 3 แสนล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ -จีน จะทำให้จีนมีอำนาจการซื้อสินค้าลดลง รวมทั้งคาดว่าชนชั้นกลางชาวจีนจะใช้นโยบายประหยัดมากขึ้นเพื่อเก็บออมไว้รองรับสถานการณ์เศรษฐกิจที่ไม่แน่นอนในอนาคต เช่น การตกลงานจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ด้านศูนย์วิจัยเพื่อการพัฒนาของสภาประชาชนจีน ประเมินว่า จีดีพี (GDP) ของจีนอาจหดตัวลง 1.5% หากสหรัฐฯ เพิ่มอัตราภาษี 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีน
ประธานาธิบดีสี มีกำหนดหารือกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในเดือนนี้ นอกรอบจากการประชุม G20 ซึ่งเชื่อว่าจะมีการหารือเรื่องความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศด้วย