เงินหยวนของจีนมีค่าลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.96 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์ ในการซื้อขายในวันจันทร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2008
การอ่อนตัวของค่าเงินหยวน ถือเป็นหนึ่งในความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯ กับจีนในช่วงหลายปีมานี้ โดยกรุงวอชิงตันกล่าวหาปักกิ่งว่าแทรกแซงค่าเงินหยวนให้อยู่ในระดับต่ำ เพื่อกระตุ้นการส่งออกของจีน
แต่เมื่อต้นเดือนนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ปฏิเสธที่จะตราหน้าจีนว่าเป็น "ผู้บงการค่าเงินหยวน" แต่บอกว่าจะติดตามตรวจสอบการกำหนดนโยบายการเงินของจีนอย่างใกล้ชิด
ก่อนหน้านี้ ทางการจีนระบุว่า จีนได้พยายามหลีกเลี่ยงการแทรกแซงค่าเงินหยวนเพื่อกระตุ้นการส่งออก ท่ามกลางสงครามภาษีนำเข้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน แต่จะทำให้เงินหยวนสะท้อนกลไกตลาดมากขึ้นซึ่งมีผลให้เงินหยวนมีค่าลดลง
ด้านผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า จีนจะพยายามไม่ให้เงินหยวนมีค่าต่ำลงไปเกิน 7 หยวน ต่อ 1 ดอลลาร์ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งทางการค้ากับสหรัฐฯ
ตั้งแต่เดือนเมษายน เงินหยวนจีนมีค่าลดลงไปแล้วเกือบ 10% เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอความร้อนแรงของเศรษฐกิจจีนและอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง สวนทางกับอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น ทำให้จีนสามารถส่งออกสินค้าได้มากขึ้นเพื่อชดเชยกับส่วนที่สูญเสียไปจากสงครามการค้ากับกรุงวอชิงตัน
อย่างไรก็ตาม การที่ค่าเงินหยวนอ่อนแอก็อาจมีผลให้เงินทุนไหลออกจากจีนเช่นกัน ซึ่งจะมีผลให้อัตราดอกเบี้ยในประเทศจีนยิ่งสูงขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
คาดว่าประเด็นเรื่องค่าเงินหยวน จะถูกหยิบยกขึ้นมาหารือในการประชุมระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ระหว่างการประชุมของกลุ่ม จี20 ในเดือนพฤศจิกายนนี้