หน้าเว็บไซท์ของทำเนียบประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ รายงานว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน หวัง อี้ (Wang Yi) ได้ไปเยี่ยมท่าเรือเมืองดาเวา (Davao City) ของฟิลิปปินส์เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อเจรจากับประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต้ ของฟิลิปปินส์เป็นเวลานาน 1 ชั่วโมง
ด้านสำนักข่าวชินหัวของจีนรายงานว่า นายหวังกล่าวว่าความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างจีน-ฟิลิปปินส์ สามารถขยายวงกว้างมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมถึงความร่วมมือด้านใหม่ๆ รวมทั้งโครงการต่างๆ ของการสร้างเส้นทางการค้าเส้นใหม่ที่เรียกว่า หนึ่งถนนหนึ่งวงแหวน (Belt and Road Initiative)
ฟิลิปปินส์คาดหวังมาตลอดว่าจีนจะเริ่มต้นดำเนินการตามคำสัญญาเมื่อเดือนตุลาคมปี ค.ศ. 2016 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ว่าจะมอบเงินช่วยเหลือเเละการลงทุนในฟิลิปปินส์มูลค่า 24,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ
ทางการฟิลิปปินส์กังวลโดยเฉพาะเนื่องจากกำลังมีปัญหาขัดเเย้งกันเรื่องการอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันเหนือพื้นที่ในทะเลจีนใต้
การปรับปรุงท่าเรือน้ำลึกดาเวาที่มีขนาดเล็กเเละทรุดโทรม จะกระตุ้นการขยายตัวทางธุรกิจแก่เมืองท่าเรือที่มีประชาชน 1 ล้าน 6 เเสนคน ซึ่งมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์เเต่ยากจน และเรือขนส่งสินค้าของจีนจะสามารถใช้ท่าเรือดาเวาเป็นฐานส่งออกเเละนำเข้าไปยังประเทศต่างๆ ทางใต้ลงไป
ราจิฟ บิสวาส (Rajiv Biswas) หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิกแห่งบริษัทวิจัย IHS Markit กล่าวว่า ในที่สุดเเล้ว ทั้งสองฝ่ายมองว่าความร่วมมือนี้จะเป็นประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย โดยจีนจะปรับปรุงการค้ากับประเทศต่างๆ เเละฟิลิปปินส์จะมีโครงสร้างพื้นฐานที่ดีขึ้น
จีนได้เริ่มต้นโครงการเส้นทางการค้าหนึ่งถนนหนึ่งวงแหวนในปี 2013 เพื่อเปิดเส้นทางการค้ากับต่างประเทศด้วยการลงทุนปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ถนนหนทางเเละท่าเรือใน 100 ประเทศทั่วโลก
สำนักข่าวชินหัวรายงานว่า โครงการนี้ได้ขยายกว้างขึ้นจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการเเรกเริ่มในยูโรเอเชีย ขยายไปรวมเอาประเทศในเเปซิฟิกตอนใต้เข้าไว้ด้วย
คริสเตียน เดอ กุสมัน (Christian de Guzman) รองผู้อำนวยการเเละเจ้าหน้าที่ด้านเครดิตอาวุโสแห่งบริษัทมูดดี้ส์ ในสิงคโปร์ กล่าวว่า เมืองดาเวา ซึ่งตั้งอยู่ในอ่าวใกล้กับทางชายฝั่งแปซิฟิกของฟิลิปปินส์ เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดเพื่อจีนจะใช้ในการขนส่งเเร่
นอกจากการขยายเส้นทางการค้าไปทางใต้ของประเทศเเล้ว โครงการนี้ยังทำให้อินโดนีเซียได้รับเงิน 23,300 ล้านดอลล่าร์จากงานรับเหมาต่างๆ ในโครงการหนึ่งถนนหนึ่งวงแหวนในเดือนเมษายนปีนี้
สำนักข่าวชินหัวรายงานหลังจากซามัวลงนามเข้าร่วมโครงการของจีนนี้ว่าโครงการหนึ่งแถบหนึ่งถนนจะเปิดตลาดขนาดใหญ่แก่ประเทศต่างๆ ในแปซิฟิกใต้อีกด้วย
เจย์ บาทองบาคาล (Jay Batongbacal) ศาสตราจารย์ด้านกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ ที่มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ (University of the Philippines) กล่าวว่า ท่าเรือเมืองดาเวาเป็นจุดที่ตั้งที่เหมาะเจาะมาก หากจีนต้องการขยายเส้นทางการค้าทางทะเลไปยังอินโดนีเซียและประเทศในแปซิฟิกใต้
เขากล่าวว่า สินค้าสามารถส่งออกเเละนำเข้าผ่านท่าเรือเมืองดาเวาได้สะดวก เพราะเเม้ว่าจะเป็นท่าเรือใหญ่หากเทียบกับท่าเรือกรุงมะลิลา แต่ก็มีความวุ่นวายน้อยกว่า
ประธานาธิบดีดูเตอร์เต้ ซึ่งเคยเป็นนายกเทศมนตรีของเมืองดาเวา ต้องการให้จีนเดินหน้าในคำสัญญาที่จะลงทุนที่ท่าเรือดาเวา โดยยอมมองข้ามข้อขัดเเย้งกับจีนเกี่ยวกับการอ้างกรรมสิทธิ์ดินแดนในทะเลจีนใต้
บาทองบาคาล กล่าวว่า เมืองดาเวาบังเอิญเป็นเมืองบ้านเกิดของ ปธน.ดูเตอร์เต้ และจีนรู้ดีว่า ปธน.ดูเตอร์เต้ จะช่วยให้โครงการของจีนในเมืองดาเวานี้ง่ายเเละเดินหน้าเร็วขึ้น
แต่บรรดานักวิเคราะห์เตือนฟิลิปปินส์ว่า ควรระมัดระวังไม่ให้สร้างหนี้กับจีนมากจนไม่สามารถจ่ายคืนได้ ในฐานะผู้รับความช่วยเหลือในโครงการหนึ่งถนนหนึ่งวงแหวนนี้ อย่างที่เกิดขึ้นกับปากีสถานเเละศรีลังกา
(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)