รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน หวัง อี้ มีแผนเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันในเดือนนี้ เพื่อหารือในหลายประเด็นกับเจ้าหน้าที่อเมริกัน ท่ามกลางจุดยืนที่ต่างกันของสองประเทศในสงครามยูเครน และความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮามาส
คาดว่าประเด็นสำคัญซึ่งเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีนนั้น นอกจากเรื่องสงครามในตะวันออกกลางและในยูเครนแล้ว ยังรวมถึงการป้องกันความขัดแย้งทางทหารที่อาจเกิดจากอุบัติเหตุทางอากาศ หลังจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มีรายงานว่าพบเครื่องบินทหารของจีนกระทำการสุ่มเสี่ยงและอันตรายเพิ่มขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ตลอดจนปัญหาการระบาดของยาเฟนทานิลในอเมริกาด้วย
เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ออกมากล่าวถึงสงครามระหว่างอิสราเอลกับกุล่มฮามาสในฉนวนกาซ่าเป็นครั้งแรก โดยยืนยันสนับสนุนการหยุดยิงในทันที และจัดตั้ง "รัฐอิสระปาเลสไตน์" ซึ่งเชื่อว่าเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการยุติความขัดแย้งครั้งนี้
ท่าทีของผู้นำจีนสร้างความไม่พอใจในหมู่เจ้าหน้าที่อิสราเอลซึ่งยืนยันว่าอิสราเอลมีสิทธิในการปกป้องตนเองจากการโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนกว่า 1,400 คนทางภาคใต้ของอิสราเอล
ทางด้านสหรัฐฯ แสดงความประสงค์ให้รัฐบาลปักกิ่งช่วยสื่อสารกับประเทศต่าง ๆ ในตะวันออกกลางเพื่อป้องกันไม่ให้สงครามครั้งนี้ลุกลามออกไป
แมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หากจีนสามารถทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งลุกลาม นั่นเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ตนไม่คิดว่าเป้าหมายของสหรัฐฯ จะสอดคล้องกับข้อเสนอเรื่องการหยุดยิงของจีน
"เราคิดว่าขณะนี้การไกล่เกลี่ยกับฮามาสไม่ใช่แนวทางที่เหมาะสม" โฆษกมิลเลอร์กล่าว
ที่ผ่านมาจีนมิได้จัดว่ากลุ่มฮามาสเป็นกลุ่มก่อการร้าย แต่เป็นผู้แทนอย่างถูกต้องของชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า
นอกจากเรื่องจุดยืนในสงครามที่ต่างกันแล้ว คาดว่าผู้แทนของสหรัฐฯ กับจีนจะหารือกันเรื่องปัญหาการระบาดของยาเฟนทานิลในสหรัฐฯ
เมื่อต้นเดือนนี้ สว.ชัค ชูเมอร์ ผู้นำพรรคเดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงปักกิ่งและได้พบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในประเด็นที่เกี่ยวกับยาเฟนทานิล โดย สว.ชูเมอร์ กล่าวถึงปัญหานี้ว่า "เราขอร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ทำงานร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อสกัดการไหลทะลักเข้ามาของสารเคมีจากจีนที่ถูกนำไปใช้ในการผลิตยาเฟนทานิลซึ่งกำลังเกิดวิกฤติในอเมริกา เราขอให้ประธานาธิบดีสีเปิดช่องทางการสื่อสารเพื่อยับยั้งสารเคมีตั้งต้นดังกล่าว"
อย่างไรก็ตาม บอนนี เกลเซอร์ แห่งโครงการอินโด-แปซิฟิก ที่สถาบัน German Marshall Fund ในสหรัฐฯ กล่าวกับวีโอเอว่า ความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐฯ ในปัจจุบัน กำลังขาดความไว้เนื้อเชื่อใจกันและเต็มไปด้วยการแข่งขัน ซึ่งเชื่อว่าจีนยังคงลังเลที่จะให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ไม่ว่าในเรื่องใดก็ตาม จนกว่าจะมีความชัดเจนระหว่างกันมากกว่านี้
ทั้งนี้ การเยือนกรุงวอชิงตันของรัฐมนตรีหวัง อี้ ครั้งนี้ ยังถูกมองว่าเป็นการปูทางไปสู่การประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ที่คาดหมายว่าอาจจะมีขึ้นในเดือนหน้าระหว่างการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ เอเปค ที่นครซานฟรานซิสโก อีกด้วย