จีนและรัสเซีย ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ร่วมกับหลายประเทศ เช่น ฝรั่งเศส อังกฤษ คิวบา กาบอน ไอวอรีโคสต์ โบลิเวีย และอุซเบกิสถาน โดยมี 4 ประเทศที่ได้รับเลือกเป็นสมัยที่สอง คือ เซเนกัล เนปาล ยูเครน และเม็กซิโก
การลงคะแนนเลือกสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ใช้วิธีหย่อนบัตรลงคะแนนเป็นรายภูมิภาคโดยไม่มีการเปิดเผยว่าใครเลือกตัวแทนจากประเทศใด ซึ่งในส่วนของเอเชียแปซิฟิกนั้น มีประเทศเดียวที่ลงสมัครแต่ไม่ได้รับเลือก คือ ซาอุดิอาระเบีย
โดยสมาชิกสภาฯ ชุดใหม่จะเริ่มทำหน้าที่ในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า เป็นต้นไป
สำหรับจีนนั้นได้รับเลือกในสมัยนี้ด้วยคะแนน 139 เสียง ลดลงมากกว่า 20% จากคะแนนเสียงที่เคยได้เมื่อ 4 ปีก่อนเมื่อตอนที่ได้รับเลือกครั้งสุดท้าย
ที่ผ่านมา จีนถูกวิจารณ์อย่างมากเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งกรณีที่เกิดขึ้นในฮ่องกง และกับชาวมุสลิมอุยกูร์ที่มณฑลซินเจียง
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ มีแถลงการณ์ว่า เป็นอีกครั้งที่สหประชาชาติเลือกประเทศที่มีประวัติที่ไม่ดีด้านสิทธิมนุษยชนให้มานั่งในตำแหน่งนี้ ซึ่งยิ่งเป็นการรับรองการตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการถอนตัวออกจากสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เมื่อสองปีที่แล้ว รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสภาสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยให้เหตุผลว่าสภาฯ ดังกล่าวมีอคติต่ออิสราเอลและขาดการปฏิรูปอย่างเหมาะสม