ในสัปดาห์นี้ พรรคคอมมิวนิสต์จะจัดประชุมใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 5 ปีและเป็นปรากฏการณ์การเมืองที่นักวิเคราะห์จับตามองใกล้ชิด
ผู้สันทัดกรณีกล่าวว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน อาจใช้โอกาสนี้ปรับเปลี่ยนตำแหน่งทรงอำนาจของสมาชิกพรรคบางราย เพื่อผนึกฐานอำนาจของตนให้มั่นคงมากขึ้น
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง คงได้รับเลือกเป็นเลขาธิการใหญ่ของพรรคอีกสมัยหนึ่งอย่างแน่นอน และเป็นไปได้มากเช่นกันที่นายกรัฐมนตรี หลี่ เค่อเฉียง จะยังคงนั่งอยู่ในคณะกรรมการถาวรของพรรค หรือที่เรียกว่า โพลิทบูโร (Politburo) ที่มีสมาชิกทั้งหมดเพียง 7 คน
บุคคลหนึ่งซึ่งถูกมองว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของจีน คือ นายหวาง จี้ชาน เขาเป็นหนึ่งใน 7 สมาชิกถาวรของโพลิทบูโร แต่อนาคตของเขาอาจเปลี่ยนแปลงที่การประชุมพรรค ตามความเห็นของนักวิเคราะห์บางราย
นายหวางทำงานให้รัฐบาลจีนในงานสำคัญ เช่นการพบกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียนลุง และ นายสตีฟ แบนนอน ในช่วงที่เขาเป็นที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ให้กับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
ตำแหน่งสำคัญของนายหวางอีกตำแหน่งหนึ่งคือ หัวหน้าคณะกรรมาธิการกลางด้านวินัยและการตรวจสอบ หน่วยงานนี้เป็นแกนหลักของงานปราบคอร์รัปชั่น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาหลายปี มีการกวาดการฉ้อราษฎร์บังหลวงอย่างกว้างขวาง
การปราบปรามคอร์รัปชั่นของนาย หวาง ช่วยให้ ประธานาธิบดีสี เพิ่มความมั่นคงทางการเมือง เนื่องจากมีการลดบทบาทคู่แข่งของผู้นำจีน
แต่ในขณะเดียวกัน นายหวางสร้างศัตรูไว้มากมายในช่วงปราบคอร์รัปชั่นและได้สร้างกลุ่มอำนาจของตนเองขึ้นภายในพรรคคอมมิวนิสต์อีกด้วย
นักวิเคราะห์การเมืองจีน วิลลี่ แลม (Willy Lam) กล่าวว่า หวาง จี้ชาน สร้างอาณาจักรและมีกลุ่มของตน ในช่วงที่เขาเป็นหัวหน้าคณะกรรมาธิการกลางด้านวินัยและการตรวจสอบ
และกลุ่มก้อนที่เกิดขึ้นซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจของนายหวาง ไม่น่าจะเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีสี พอใจนัก นั่นหมายความว่าอนาคตทางการเมืองของนายหวาง อาจสั่นคลอนที่การประชุมพรรคใหญ่ครั้งนี้ได้
การประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะเกิดขึ้นในวันพุธที่ 18 ตุลาคมโดยสมาชิก 2,300 มาพบกันครั้งนี้เพื่อลงคะแนนเลือกคณะกรรมการกลาง
สำหรับคณะกรรมการกลางซึ่งมีสมาชิก 350 คน จะทำหน้าที่เลือกสมาชิก หน่วยงานทรงอำนาจ โพลิทบูโร ที่ประกอบด้วยสมาชิก 25 คน แต่มีเพียง 7 คนที่เป็นสมาชิกถาวรของโพลิทบูโร
นอกจากนั้นจะมีการเลือกสมาชิกคณะกรรมาธิการกลางด้านการทหาร ซึ่งจะอยู่ภายใต้การควบคุมของ 7 สมาชิกถาวรของโพลิทบูโร
ตั้งแต่การขึ้นสู่อำนาจผู้นำพรรคของประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เมื่อ 5 ปีก่อน เขาได้ค่อยๆ สร้างอิทธิพลทางการเมือง และเปรียบเหมือนแกนกลางของพรรคที่คุมอำนาจด้านการบริหารรัฐบาลและกองทัพจีน
นอกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แล้ว ประธานาธิบดีสี เป็นประธานคณะกรรมาธิการกลางด้านการทหาร และกลุ่มอื่นๆ เช่น การปฏิรูปด้านกลาโหม การต่างประเทศ เศรษฐกิจ แลความมั่นคงทางอินเทอร์เน็ตด้วย
นักวิเคราะห์ Francesco Sisci คาดการณ์เกี่ยวกับการประชุมพรรคครั้งนี้ว่าคงเป็นอีกครั้งหนึ่งที่อาจได้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้คนประหลาดใจ
เขากล่าวว่า ประธานาธิบดีสี มักสร้างความประหลาดใจต่อนักวิเคราะห์การเมืองจีน ก่อนหน้านี้มีคนประเมินผู้นำจีนผู้นี้ต่ำเกินไป คนเคยเชื่อว่า ประธานาธิบดีสี คงเป็นหุ่นเชิดให้กับผู้นำพรรคคนอื่นๆ แต่ปัจจุบันเขาได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาสามารถตัดสินใจในสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง
และเป็นการยากที่จะเดาว่า เขาจะทำอะไรต่อไปในการบริหารพรรคและกำหนดทิศทางของประเทศ
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียง)