สื่อมวลชนของทางการจีน คือ CCTV และสื่อออนไลน์รายใหญ่ Tencent เตรียมคว่ำบาตรงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์ของฮ่องกงครั้งที่ 35 ในวันที่ 3 เม.ย โดยจะไม่มีการถ่ายทอดงานนี้ในจีนแผ่นดินใหญ่ตามที่ได้มีการทำสัญญาไว้ หลังจากมีหนังอื้อฉาวที่เกี่ยวกับการเมืองจีนชื่อ "10 Years" ได้รับเสนอชื่อชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในงานนี้ด้วย
ก่อนหน้านี้สำนักงานเครือข่ายความมั่นคงจีนประกาศห้ามฉายหนังเรื่องนี้ในจีนไปแล้ว
หนังเสนอเรื่องราวในอนาคตว่าเกาะฮ่องกงซึ่งเป็นอดีตอณานิคมของอังกฤษจะเป็นอย่างไรในปีค.ศ. 2025 ภายใต้การปกครองแบบเบ็ดเสร็จของทางการจีนที่มากขึ้นตลอดเวลา
นาย Joseph Cheung นักรณรงค์ทางการเมืองกล่าวว่า ความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงการโหยหาอดีตของฮ่องกง และความกลัวต่ออนาคต เขากล่าวว่าคนฮ่องกงต้องการแสดงออกถึงความมุ่งหวังและความตั้งใจของตน เพื่อปกป้องคุณค่าทางสังคมและวิถีชีวิตของคนฮ่องกง
เขาชี้ว่าจำนวนคนไปลงคะเเนนเสียงเลือกตั้งสภาอำเภอแค่ 47 เปอร์เซ็นต์เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว เป็นตัวบ่งชี้ถึงเรื่องนี้ได้ดี
ภาพยนตร์เรื่องนี้ผลิตและกำกับโดยทีมงานและนักแสดงที่เป็นอาสาสมัครเป็นส่วนใหญ่ และรวมเรื่องราวสั้นๆ เอาไว้ห้าเรื่องที่จินตนาการเรื่องราวแนวลบที่จะเกิดขึ้นในอนาคตในฮ่องกง อาทิ เรื่องสั้นเรื่องหนึ่งเสนอเรื่องราวที่มีผู้ประท้วงคนหนึ่งทำการเผาตัวเองด้านหน้าสถานกงศุลอังกฤษ หรืออีกเรื่องหนึ่งเสนอเรื่องราวที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเยาวชนทำลายร้านขายหนังสือต่างๆ ในฮ่องกง และเรื่องราวการเลือกปฏิบัติต่อคนงานชาวจีน
นาย Andrew Choi โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์กล่าวว่า ตนเองและทีมงานไม่คิดมาก่อนว่าภาพยนตร์จะได้รับความสำเร็จและได้รับความสนใจขนาดนี้ เขากล่าวว่าบรรยากาศโดยรวมในฮ่องกงที่ประชาชนเริ่มขาดความหวังในรัฐบาลฮ่องกงที่ควบคุมโดยรัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้ถูกกล่าวขวัญถึงและจุดประกายให้มีการถกกันถึงอนาคตของฮ่องกง
หนังสือพิมพ์ Global Times ของรัฐบาลจีนประนามภาพยนตร์เรื่องนี้อย่างรุนแรง และเตือนว่าผู้สร้างหนังควรคิดถึงผลพวงจากเรื่องนี้ที่จะมีต่อฮ่องกง
นาย Choi โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์เรื่องนี้กล่าวว่า ในขณะที่หนังเรื่องนี้คาดการณ์อนาคตที่มืดมนของฮ่องกงในอีก 10 ปี หนังเรื่องนี้ยังเป็นการเตือนใจว่าชาวฮ่องกงในปัจจุบันยังมีเสรีภาพในหลายด้านอยู่ เขากล่าวว่าเขาต้องการให้คนฮ่องกงมองในทางบวกว่า ในฮ่องกงขณะนี้ หากเรายังสามารถสร้างหนังเรื่องนี้ได้ก็หมายความว่าเรายังมีเสรีภาพอยู่ และคนฮ่องกงต้องการรักษาเสรีภาพนี้เอาไว้ต่อไป
ภาพยนตร์เรื่องนี้ออกฉายในช่วงที่ผู้ขายหนังสือหลายคนในฮ่องกง ที่ตีพิมพ์หนังสือหลายเล่มที่วิจารณ์รัฐบาลจีนแผ่นดินใหญ่ได้หายตัวไป บรรดานักรณรงค์ทางการเมืองยังวิจารณ์การทำร้ายสื่อมวลชนฮ่องกงเมื่อเร็วนี้ ตลอดจนการเซ็นเซ่อร์สื่อมวลชนท้องถิ่นในฮ่องกงอีกด้วย
ในตอนเเรกเริ่ม มีการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในโรงหนังที่ฮ่องกงเพียงโรงเดียวเท่านั้น แต่ขณะนี้ขยายออกไปฉายในโรงหนังท้องถิ่นอีกหลายโรง
ผู้สร้างภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดเผยว่า กำลังเจรจากับผู้จัดจำหน่ายหนังระดับนานาชาติหลายบริษัทอยู่ในขณะนี้