อังกฤษเริ่มนำส่งขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับยูเครน เพื่อช่วยกรุงเคียฟต้านการรุกรานของรัสเซียที่ดำเนินมากว่า 14 เดือน ตามการเปิดเผยของ เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษในวันพฤหัสบดี
การนำส่งขีปนาวุธ Storm Shadow ที่มีความสามารถบินได้ไกลถึง 250 กิโลเมตรครั้งนี้ ถือเป็นการมอบความช่วยเหลือด้านอาวุธความสามารถสูงเช่นนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ยูเครนร้องขออาวุธประเภทดังกล่าวจากพันธมิตรชาติตะวันตกมา
รมต.วอลเลซ แจ้งต่อสมาชิกสภาสามัญชนสหราชอาณาจักรว่า ขีปนาวุธดังกล่าว “กำลังเดินทางเข้าไปหรือไม่ก็เดินทางถึงประเทศ[ยูเครน]เรียบร้อยแล้ว” โดยไม่ได้ระบุว่า อังกฤษจัดส่งขีปนาวุธนี้ไปให้กรุงเคียฟเป็นจำนวนเท่าใด
สื่ออังกฤษรายงานวา ขีปนาวุธ Storm Shadow นี้จะช่วยให้ยูเครนมีความสามารถยิงโจมตีได้ไกลเกินแนวหน้าของการรบ ซึ่งรวมถึงพื้นที่แคว้นไครเมียที่รัสเซียยึดครองไว้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2014 แต่ก็รายงานด้วยว่า ยูเครนสัญญาว่า จะไม่ใช้ขีปนาวุธนี้เพื่อโจมตีรัสเซีย
รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษกล่าวด้วยว่า อาวุธดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เพื่อต่อสู้กับกองกำลังรัสเซียที่อยู่ใน “อาณาเขตอธิปไตยของยูเครน” พร้อมชี้ว่า ความช่วยเหลือของอังกฤษต่อยูเครนนี้เป็นการดำเนินการที่ “มีความรับผิดชอบ มีการปรับคำนวณ มีการประสานงาน และว่องไว ... เราไม่ได้เพียงจะยืนรอดูรัสเซียเข่นฆ่าพลเรือน”
ยูเครนพักการโจมตีตอบโต้
ประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาสำหรับกองกำลังกรุงเคียฟที่จะทำการโจมตีตอบโต้ดังที่มีหลายฝ่ายเฝ้ารอดูมาสักระยะ เพื่อยึดคืนพื้นที่ที่กองทหารรัสเซียควบคุมไว้
เซเลนสกี ระบุระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่ออังกฤษที่เปิดเผยออกมาในวันพฤหัสบดีว่า “เรายังคงต้องการเวลาอีกนิดหน่อย”
เวลาที่ผู้นำรัฐบาลกรุงเคียฟพูดถึงนั้นคือ ช่วงการเตรียมการที่รวมถึง การฝึกอบรมกองกำลังยูเครนโดยหุ้นส่วนชาติตะวันตก รวมทั้งการนำส่งกระสุน รถถัง และระบบต่อต้านการโจมตีทางอากาศเพื่อยกระดับความสามารถในการรบของฝ่ายยูเครนเอง
เซเลนสกีกล่าวด้วยว่า “ด้วย[สิ่งที่เรามี] เราสามารถรุกคืบต่อไปและประสบความสำเร็จได้” และว่า “แต่เราจะต้องสูญเสียคนจำนวนมาก ผมคิดว่า นั่นเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้”
เมื่อค่ำวันพุธที่ผ่านมา พลเรือเอกบ็อบ เบาเออร์ ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการด้านทหารนาโต้ บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ยูเครนจะสามารถทำการสู้รบด้วยอาวุธที่ดีขึ้น แม้จะมีทหารน้อยกว่ารัสเซีย โดยระบุว่า “พวกรัสเซียจะต้องมุ่งเน้นเรื่องปริมาณ” และว่า “ผู้คนที่ถูกระดมพลมาและทหารเกณฑ์จำนวนมาก ไม่ได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี ของเก่า แต่มีจำนวนมาก และไม่ฉมังแม่นยำ ไม่ได้ดีเหมือนกับของที่ใหม่กว่า”
- ข้อมูลบางส่วนมาจาก เอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์