ชาวยูเครนในกรุงเคียฟปรับเข้าโหมดเอาชีวิตรอดท่ามกลางภาวะขาดแคลนน้ำและไฟฟ้าในวันพฤหัสบดี หลังจากรัสเซียระดมโจมตีโครงข่ายสาธารณูปโภคอย่างหนัก จนทำให้เมืองหลวงยูเครนจมอยู่ในความมืดมิด ตามรายงานของเอพี
บรรยากาศในกรุงเคียฟ ที่มีประชากร 3 ล้านคน ประสบกับความยากลำบาก ผู้คนเริ่มรองน้ำฝนจากท่อรางน้ำมากักตุนไว้ ในระหว่างรอเจ้าหน้าที่ซ่อมแซมระบบ สมาชิกครอบครัวและเพื่อนฝูงแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารถึงแหล่งไฟฟ้าและแหล่งน้ำที่กลับมาใช้งานได้ ขณะที่ร้านกาแฟในกรุงเคียฟบางแห่งที่ยังมีน้ำและไฟฟ้าใช้อยู่บ้าง เปิดให้บริการเครื่องดื่มร้อน อาหารร้อน เปิดเพลงแนวคาเฟ่ และบริการอินเตอร์เน็ต กลายเป็นแหล่งพักพิงของประชาชนมากมายในวันพฤหัสบดี
นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ วิตาลี คลิตช์โก กล่าวว่า พื้นที่ 70% ในกรุงเคียฟยังปราศจากไฟฟ้าในเช้าวันพฤหัสบดี
ขณะที่วันนี้ก้าวเข้าสู่เดือนที่ 9 ที่รัสเซียบุกยูเครนแล้ว และชาวยูเครนกำลังเผชิญกับหน้าหนาวที่อันตราย แต่อาลิน่า ดูเบโก วัย 34 ปี ชาวกรุงเคียฟบอกว่า เธอเลือกจะใช้ชีวิตโดยไร้ไฟฟ้าดีกว่าจะตกอยู่ในการครอบครองของรัสเซีย
อีกด้านหนึ่งในเมืองเคอร์ซอน ยังมีการสู้รบอย่างหนักหน่วง มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 คนจากขีปนาวุธที่เข้าถล่มด้านหน้าร้านกาแฟ และมีรายงานผู้หญิง 1 คนเสียชีวิตอยู่ใกล้บ้านของเธอเองจากเหตุโจมตีลักษณะเดียวกันนี้
ผู้นำชาติตะวันตก ประณามการโจมตีของรัสเซีย โดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาคร็อง แห่งฝรั่งเศส ทวีตในวันพฤหัสบดีระบุว่า “การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนคืออาชญากรรมสงคราม”
ฝั่งโฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซีย อิเกอร์ โคนาเชนคอฟ ย้ำอีกครั้งในวันพฤหัสบดีว่า รัสเซียมุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแต่กล่าวว่าโครงข่ายดังกล่าวมีกองทัพยูเครนเป็นผู้ควบคุม และนี่เป็นการโจมตีเพื่อขัดขวางกองทัพยูเครนเท่านั้น
ด้านโฆษกรัฐบาลเครมลิน ดมิทรี เพสคอฟ ระบุว่ารัฐบาลยูเครนทำให้ประชาชนตกระกำลำบากเสียเอง โดยกล่าวว่า “ผู้นำยูเครนมีโอกาสในการนำพาสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติได้ มีโอกาสในการแก้ไขสถานการณ์ ที่จะทำตามความต้องการของฝั่งรัสเซีย และยุติความทรมานของประชาชนยูเครนได้”
- ที่มา: เอพี