รัสเซียโจมตีรอบใหม่ใส่เครือข่ายไฟฟ้าและพลังงานของยูเครน ซึ่งดูเหมือนเป็นความตั้งใจของกองทัพรัสเซียที่จะสร้างความเสียหายต่อภาคพลังงานของยูเครนก่อนที่ฤดูหนาวจะมาถึง
การโจมตีล่าสุดของรัสเซียมีลักษณะคล้ายกับในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คือเน้นทำลายโรงไฟฟ้าในหลายเมืองของยูเครน ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในวงกว้าง
เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟกล่าวว่า มีประชาชนเสียชีวิต 3 คนจากการโจมตีของรัสเซียใส่อาคารสองแห่ง ขณะที่มีรายงานไฟฟ้าดับในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมทั้งบางส่วนของกรุงเคียฟ และในมอลโดวาที่อยู่ติดกัน
นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ วิตาลี คลิตช์โก โพสต์ในอินสตาแกรมว่า "หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานของกรุงเคียฟถูกทำลายเสียหาย" ขณะที่นายกเทศมนตรีของเมืองลวิฟใกล้ชายแดนโปแลนด์ เผยว่า เกิดไฟฟ้าดับทั้งเมือง แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ามีเป้าหมายถูกทำลายกี่แห่ง
ประธานาธิบดียูเครน โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้ทูตของยูเครนประจำสหประชาชาติ ขอให้มีการประชุมฉุกเฉินกับคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นเพื่อหารือเรื่องการโจมตีครั้งล่าสุดของรัสเซีย รวมถึงการโจมตีใกล้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองซาปอริซห์เชีย ซึ่งอาจนำไปสู่หายนะด้านนิวเคลียร์ในยูเครนและทั่วยุโรปได้
ปธน.เซเลนสกี กล่าวว่า "การสังหารประชาชน ทำลายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน เป็นการกระทำของผู้ก่อการร้าย" และ "ยูเครนยังคงขอร้องให้มีการตอบโต้ของประชาคมโลกต่ออาชญากรรมเหล่านี้"
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ยูเครนรายงานว่า รัสเซียโจมตีใส่โรงพยาบาลผดุงครรภ์แห่งหนึ่งทางใต้ของยูเครนเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา ทำให้มีเด็กทารกเสียชีวิตหนึ่งคนและมารดาได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ระบุว่า ขีปนาวุธได้ทำลายอาคารสองชั้นแห่งหนึ่งในเมืองวิลนิแอนสก์ ในเขตซาปอริซห์เชีย ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของศูนย์ผดุงครรภ์ดังกล่าว
ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียยังคงโจมตีใส่เป้าหมายพลเรือนและสังหารประชาชนยูเครน พร้อมระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต้องถูกลงโทษจากการกระทำอันโหดร้ายนี้
ผู้นำยูเครนยังได้แสดงความยินดีที่สภายุโรปได้ตัดสินใจเมื่อวันพุธ ให้ระบุชื่อรัสเซียว่าเป็น "รัฐสนับสนุนการก่อการร้าย" ด้วย
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ประกาศมอบความช่วยเหลือทางการทหารให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมเป็นมูลค่า 400 ล้านดอลลาร์ ทำให้ยอดความช่วยเหลือที่อเมริกาจัดส่งให้ยูเครนในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเพิ่มเป็นมากกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์แล้ว
- ข้อมูลบางส่วนจากเอพี เอเอฟพี และรอยเตอร์