รัฐบาลยูเครนประกาศเตือนให้ประชาชนประหยัดพลังงานท่ามกลางการระดมโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพรัสเซียซึ่งมีเป้าหมายทำลายเครือข่ายสาธารณูปโภคและพลังงานของยูเครน ขณะที่ สหประชาชาติเตือนว่าอาจเกิดวิกฤติด้านมนุษยธรรมในยูเครนในช่วงฤดูหนาวนี้
เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า ชาวยูเครนหลายล้านคน รวมทั้งในกรุงเคียฟ อาจเผชิญการตัดไฟฟ้าต่อเนื่องอย่างน้อยจนถึงเดือนมีนาคม หลังจากที่เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อเครือข่ายการจ่ายไฟฟ้าทั่วยูเครนจากการโจมตีของรัสเซีย
คาดว่าอุณหภูมิในยูเครนจะลดลงต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียสในอีกไม่กี่วัน และอาจลดต่ำถึง -20 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่าน้ันในบางพื้นที่ในช่วงฤดูหนาว
ช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ รัสเซียมุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนหลังจากที่ต้องเป็นฝ่ายถอยร่นในสมรภูมิหลายแห่ง รวมทั้งที่เขตปกครองเคอร์ซอนทางภาคใต้ของยูเครน
นายกรัฐมนตรียูเครน เดนิส ชมีฮาล ระบุทางเทเลแกรมในวันอังคารว่า "การประหยัดพลังงานคือสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในตอนนี้" โดยจะมีการตัดไฟฟ้าในทุกพื้นที่ รวมทั้งอาจมีการตัดไฟฉุกเฉินในบางกรณีเนื่องจากความหนาวเย็นเริ่มปกคลุมและปริมาณการใช้ไฟฟ้าเริ่มสูงขึ้น
ด้าน อิรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรียูเครน โพสต์ข้อความทางเทเลแกรมแนะนำให้ประชาชนในเขตหนาวเย็นอพยพไปยังพื้นที่ที่อบอุ่นกว่าในช่วงฤดูหนาวนี้
องค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า เวลานี้โรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์หลายแห่งในยูเครนกำลังขาดแคลนเชื้อเพลิง น้ำประปาและไฟฟ้า
"ระบบสาธารณสุขของยูเครนกำลังเผชิญวันที่มืดมนที่สุดในสงครามครั้งนี้จากการตกเป็นผู้ถูกกระทำจากวิกฤติพลังงาน แม้ที่ผ่านมาจะสามารถผ่านพ้นการโจมตีมาได้มากกว่า 700 ครั้ง" ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปของ WHO ระบุในแถลงการณ์หลังจากเยือนยูเครน
สื่อของทางการรัสเซีย TASS รายงานคำพูดของโฆษกรัฐบาลรัสเซีย ดมิทรี เพสคอฟ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งระบุว่า การที่รัสเซียระดมโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน เป็นผลมาจากที่รัฐบาลยูเครนไม่ต้องการเจรจากับรัสเซีย
ขณะเดียวกัน องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ระบุว่า วิกฤติพลังงานโลกครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1970 และจะยิ่งทำให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยรุนแรง โดยยุโรปคือภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
- ที่มา: รอยเตอร์