บรรดาสมาชิกสภาสหรัฐฯ จากทั้งสองพรรคการเมืองเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายระงับวาทกรรมดุเดือด ในช่วง 6 สัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ หลังจากเหตุการณ์พยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน และคำกล่าวอ้างเรื่องผู้อพยพกินสัตว์เลี้ยงที่ชุมชนผู้อพยพชาวเฮติ กลายเป็นประเด็นร้อนในแวดวงการเมืองอเมริกันในขณะนี้
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับมาหาเสียงในพื้นที่กลางแจ้งอีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์พยายามลอบสังหารเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน เมื่อ 15 กันยายนที่ผ่านมา และทรัมป์ ได้กล่าวหาประธานาธิบดีโจ ไบเดน และรองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ ออกมาสนับสนุนคำกล่าวหาของเขาด้วย
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ทางเว็บไซต์ Whitehouse.gov รองประธานาธิบดีคามาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่าเธอรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อเหตุพยายามลอบสังหารอดีตผู้นำสหรัฐฯ พร้อมทั้งประณามการใช้ความรุนแรงทางการเมือง
เจ้าหน้าที่อารักขาความปลอดภัยประธานาธิบดีสหรัฐฯ หรือ U.S. Secret Service ได้ยอมรับว่าล้มเหลวในการปกป้องทรัมป์ในความพยายามลอบสังหารทรัมป์ครั้งแรก ที่เกิดขึ้นในรัฐเพนซิลเวเนีย ทำให้กระสุนถากเข้าที่หูของทรัมป์
ตอนนี้การจัดตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจของทั้งสองพรรคเพื่อสอบสวนความพยายามลอบสังหารอดีตผู้นำสหรัฐฯ และชนวนเหตุที่ทำให้เกิดคลื่นของความรุนแรงทางการเมืองในช่วงเวลานี้ ตามการเปิดเผยของผู้นำของทั้งสองพรรคเมื่อวันอาทิตย์
ส.ส.ไมค์ เคลลี ผู้นำฝั่งรีพับลิกันในหน่วยงานเฉพาะกิจเหตุพยายามลอบสังหารโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “มีบางอย่างที่เกิดขึ้นกับพวกเรา เราได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวงจากสิ่งนี้ วาทกรรมคือวาทกรรม ทั้งสองฝ่ายต่างพูดสิ่งต่าง ๆ ในบางครั้ง ที่มองกลับไปแล้วบอกว่า “ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลย” นั่นเป็นสิ่งที่รับรู้กันไปแล้ว และนั่นคือสิ่งที่คนเข้าใจไปแล้ว คุณต้องระมัดระวังในสิ่งที่พูดและวิธีการที่จะสื่อออกไปด้วย”
ด้าน ส.ส.เจสัน โครว์ ผู้นำฝั่งเดโมแครตในหน่วยงานเฉพาะกิจนี้ กล่าวในรายการ “This Week” ของสถานีโทรทัศน์เอบีซีว่า “มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างการถกเถียงอย่างดุเดือดในฤดูกาลการเมือง ซึ่งเป็นสิ่งที่เราควรทำ และประณามความรุนแรงทางการเมือง และการกล่าวว่าความรุนแรงนี้ไม่มีที่ยืนในสังคมอเมริกัน ไม่ว่าคุณจะเป็นรีพับลิกันหรือเดโมแครต หรือใครก็ตามที่เคยลงมือหรือใช้ความรุนแรงนั้น”
อีกด้านหนึ่ง ทรัมป์ยังเดินหน้ากล่าวหาชุมชนผู้อพยพชาวเฮติในสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ว่าขโมยและกินเนื้อสัตว์เลี้ยงที่นั่น แม้ว่าผู้ว่าการรัฐโอไฮโอและนายกเทศมนตรีเมืองสปริงฟิลด์ ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกัน จะออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่ข้อกล่าวอ้างในเรื่องนี้ กลายเป็นชนวนความขัดแย้งและนำไปสู่การข่มขู่คุกคามชุมชนเฮติในพื้นที่ไปแล้ว
แบบทิส ชาวเฮติในสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ กล่าวกับวีโอเอว่า “ด้วยความที่เราเป็นชาวเฮติ พอมีข่าวแบบนี้เผยแพร่ออกมาในสื่อ มันทำให้เราหวาดกลัวกันมาก พวกเราก็แค่ออกมาหาชีวิตที่ดีกว่าเท่านั้น”
ส่วนผู้อพยพเฮติผู้ไม่ประสงค์ออกนามอีกราย บอกกับวีโอเอถึงสิ่งที่เกิดขึ้นหลังข่าวนี้ว่า เขาถูกคนหันมาสบถใส่หน้า พร้อมกับชักมีดขู่ทำร้ายด้วย
แม้ว่าจะมีการออกมาเรียกร้องในช่วงไม่กี่วันมานี้ให้ลดวาทกรรมการเมืองลงก่อนเลือกตั้ง แต่การรณรงค์หาเสียงในรูปแบบการโจมตีใส่กันทางการเมืองยังคงดำเนินต่อไปในการเดินสายหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อดีตปธน.ทรัมป์ กล่าวกับผู้สนับสนุนระหว่างการหาเสียงว่า “หากคามาลา แฮร์ริสได้รับเลือกตั้ง เธอจะทำลายความฝันอเมริกันไปตลอดกาล เธอไม่มีความสามารถในการเป็นประธานาธิบดีอีกด้วย ผมก็ไม่ได้อยากจะหยาบคายหรอกนะ แต่เธอไม่มีความสามารถที่จะเป็นประธานาธิบดีเลย”
ด้านทิม วอลซ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวในการรณรงค์หาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนียว่า “เรามีผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐสังกัดพรรครีพับลิกันที่ภูมิใจที่จะเรียกตัวเองว่านาซี คุณคิดว่าคนที่กำลังชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวจะไม่เป็นแบบนั้นหรือ”
ณ เวลานี้การเลือกตั้งล่วงหน้ากำลังดำเนินไปในบางรัฐของอเมริกา ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้
- ที่มา: วีโอเอ
กระดานความเห็น