ในระหว่างการขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อหน้าสมาชิกสภาคองเกรส เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ร้องขอแรงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา สำหรับการเดินหน้าแผนลงทุนก้อนใหญ่ครั้งใหม่ ที่มีจุดประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพชีวิตของชาวอเมริกัน
การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ ยังจัดขึ้นในวาระครบรอบ 100 วันของการเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศของปธน.ไบเดน ที่ประกาศก้องว่า “อเมริกากำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอีกครั้ง” แล้ว
และหลังจากแสดงความชื่นชมต่อทีมงานรัฐบาลใหม่สำหรับการรับมือกับวิกฤตโควิด-19 แล้ว ปธน.ไบเดน เรียกร้องให้มีการจัดสรรเงินลงทุนมูลค่า 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ เพื่อขยายความช่วยเหลือของรัฐบาลให้แก่เด็กและครอบครัวชาวอเมริกัน รวมทั้งเพื่อสนับสนุนระบบการศึกษาในประเทศด้วย
ในส่วนของรายละเอียดของแผนใหม่ที่ให้ชื่อว่า The American Families Plan นี้ ปธน.สหรัฐฯ ระบุว่า มีข้อเสนอเพิ่มระยะเวลาเรียนฟรีให้กับชาวอเมริกันที่เข้าเรียนในโรงเรียนของรัฐอีก 4 ปี ด้วยงบประมาณ 200,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะเอื้อให้เด็กอายุ 3 ปี และ 4 ปี สามารถเข้าชั้นเรียนสำหรับวัยก่อนเรียนได้ฟรี และการจัดงบประมาณ 109,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดการศึกษาฟรีเป็นเวลา 2 ปี สำหรับผู้เข้าเรียนในวิทยาลัยชุมชน (Community College) ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในระดับอุดมศึกษาที่ได้รับการรับรองและเงินอุดหนุนจากรัฐ รวมทั้งการจัดสรรงบมูลค่ากว่า 80,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ยากจนด้วย
นอกจากนั้น รัฐบาลของปธน.ไบเดน ยังวางแผนใช้งบประมาณ 225,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อจัดบริการดูแลเด็กก่อนวัยเรียนให้กับครอบครัวชาวอเมริกันที่ต้องการความช่วยเหลือ และเพื่อใช้ปรับขึ้นค่าตอบแทนสำหรับเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ดูแลเด็กทั้งหลาย รวมทั้งมีการตั้งงบอีก 225,000 ล้านดอลลาร์เพื่ออุดหนุนโครงการลาหยุดงานด้วยจุดประสงค์เพื่อการรักษาตัวหรือการดูแลครอบครัวของชาวอเมริกัน และงบ 200,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อปรับปรุงสวัสดิการการดูแลสุขภาพในประเทศด้วย
ทั้งนี้ ข้อเสนอแผนงานลงทุนก้อนโตครั้งใหม่ของปธน.ไบเดน มีออกมา หลังจากที่สมาชิกรัฐสภาจากฝั่งพรรคเดโมแครตเสนอแผนการลงทุนพัฒนาและปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของประเทศมูลค่า 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ไปเมื่อเดือนที่แล้ว และการลงนามรับรองกฎหมายช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิดมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ไปก่อนหน้า