ทางการออสเตรียประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์กับประชาชนหลายล้านคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนโควิดหรือฉีดยังไม่ครบโดส เริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้ เพื่อรับมือตัวเลขผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่
เวลานี้ยุโรปได้กลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 แห่งใหม่ ทำให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุโรปต้องประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดอีกครั้ง
นายกรัฐมนตรีออสเตรีย อเล็กซานเดอร์ แชลเลนเบิร์ก กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า จำเป็นต้องเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีนในหมู่ประชาชนซึ่งยังอยู่ในระดับต่ำมากในขณะนี้
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออสเตรีย วูล์ฟกัง มูเอคสไตน์ ระบุว่า ภายใต้มาตรการใหม่ของออสเตรีย ประชาชนอายุต่ำกว่า 12 ปีจะได้รับการยกเว้นจากการล็อกดาวน์ แต่ผู้ที่อายุมากกว่า 12 ปีแต่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดยังไม่ครบโดสจะสามารถออกจากบ้านได้ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น ไปทำงาน หรือซื้อสินค้าจำเป็นต่าง ๆ โดยจะเริ่มบังคับใช้มาตรการนี้อย่างน้อย 10 วัน
อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่และนักการเมืองออสเตรียหลายคนต่างแสดงความคลางแคลงสงสัยว่าจะสามารถบังคับใช้มาตรการใหม่นี้ได้อย่างไร เนื่องจากเป็นการควบคุมจำกัดประชากรแค่บางกลุ่มเท่านั้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีแชลเลนเบิร์ก ตอบว่า จะมีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดโดยตำรวจประจำพื้นที่ต่าง ๆ
ออสเตรียถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนโควิดต่ำที่สุดในยุโรปตะวันตก โดยมี 65% ของประชากรทั้งหมดที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว ในขณะที่มีประชาชนจำนวนมากที่ยังระแวงสงสัยเกี่ยวกับวัคซีน และพรรคการเมืองขนาดใหญ่อันดับสามของประเทศ คือพรรค Freedom ที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม ก็ออกมาตั้งคำถามเกี่ยวกับวัคซีนโควิด-19 เช่นกัน
