รัฐบาลออสเตรเลียและอินเดียร่วมลงนามในข้อตกลงเศรษฐกิจใหม่ ขณะที่ ตัวแทนอุตสาหกรรมบางกลุ่มของออสเตรเลียที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในข้อตกลงดังกล่าว เรียกร้องให้รัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราเดินหน้าเจรจาเพิ่มเติมให้ด้วย
รายงานข่าวระบุว่า ข้อตกลงขั้นต้นระหว่างสองประเทศที่ได้รับการเปิดเผยออกมาเมื่อวันเสาร์ เกิดขึ้นหลังการเจรจาหารือเป็นเวลานานกว่าทศวรรษ ขณะที่ นักวิเคราะห์ชี้ว่า เป็นผลของการที่ออสเตรเลียต้องการลดการพึ่งพาจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของตน อย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมถ่านหิน ไวน์ และสินค้าโภคภัณฑ์หลายประเภทของออสเตรเลียได้รับผลกระทบอย่างหนักจากกรณีข้อพิพาทระหว่างกรุงแคนเบอร์ราและกรุงปักกิ่ง หลังออสเตรเลียเรียกร้องให้มีการตั้งคณะสอบสวนอิสระหาความจริงเกี่ยวกับที่มาของโควิด-19 ซึ่งทำให้จีนไม่พอใจและประกาศตั้งกำแพงกีดกันสินค้าจากออสเตรเลีย
นายกรัฐมนตรี สก็อตต์ มอร์ริสัน แห่งออสเตรเลีย กล่าวว่า การที่รัฐบาลแคนเบอร์ราลงนามข้อตกลงกับอินเดียนี้ ไม่ได้ถือเป็นการหักหลังยูเครน และย้ำว่า ตนไม่คิดว่า “จะมีใครตั้งคำถามเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของออสเตรเลียต่อการสนับสนุนประชาชนชาวยูเครน” หลังจากทางรัฐบาลของตนประกาศดำเนินมาตรการลงโทษหลายรายการต่อรัสเซียไปแล้ว
ภายใต้ข้อตกลงล่าสุดนี้ อินเดียจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าออสเตรเลียเป็นสัดส่วนถึงกว่า 85% ที่ส่งเข้ามา ซึ่งรวมถึง ถ่านหิน ขนสัตว์ และทองแดง ขณะที่ ออสเตรเลียตกลงที่จะยกเลิกการเก็บภาษีจากสินค้าสัดส่วนกว่า 95% ของอินเดียที่ตนนำเข้า ซึ่งมีอาทิ สิ่งทอ หนังสัตว์ และอัญมณี
และแม้อุตสาหกรรมการเกษตรบางประเภทของออสเตรเลีย อันได้แก่ นมเนย ถั่วลูกไก่ และเนื้อวัว ไม่ได้ประโยชน์จากข้อตกลงใหม่นี้ แต่ตัวแทนอุตสาหกรรมดังกล่าวแสดงความหวังว่า รัฐบาลจะเดินหน้าเจรจาให้กับฝ่ายตน ขณะที่ ออสเตรเลียและอินเดียยืนยันว่า จะมีการหารือกันต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุข้อตกลงการค้าเสรีเต็มรูปแบบในที่สุด
ปัจจุบัน อินเดียคือคู่ค้าที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของออสเตรเลีย โดยมูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองในปี ค.ศ. 2020 นั้นอยู่ที่ประมาณ 18,300 ล้านดอลลาร์